PoliticalView: "พ่อคิด ลูกทำ" ใครนายกฯ ตัวจริง??

ข่าวการเมือง Wednesday December 25, 2024 10:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หลังจากน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ฉายารัฐบาล "พ่อ" เลี้ยง เป็นลูกไม้หล่นใต้ต้น ที่มี DNA เดียวกันกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จนไม่พ้นเสียงครหา รัฐบาลนี้ "พ่อคิด ลูกทำ"

โดยหากดูจากนโยบายเรือธงปี 68 ภายใต้หัวข้อ "โอกาสไทย ทำได้จริง" ที่นายก "อิ๊งค์" ได้ฉายภาพไว้เมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งมีทั้งนโยบายใหม่ และนโยบายที่สานต่อสิ่งที่รัฐบาลทำไว้อยู่แล้ว รวมไปถึงปัดฝุ่น "โครงการเดิม" ที่เคยทำไว้ในอดีต โดยเฉพาะในสมัยที่นายทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็นำกลับมาสานต่อ หรือนโยบายเคยอยากทำ แต่ไม่ได้ก็ถูกนำมาปัดฝุ่นเพื่อสานต่อ

วันนี้ "อินโฟเควสท์" รวบรวมนโยบายที่นายทักษิณ เคยโชว์วิสัยทัศน์ ก่อนที่น.ส.แพทองธาร จะออกมาแถลงเป็นนโยบายรัฐบาล อาทิ

*นโยบาย "ดิจิทัล วอลเล็ต"

หลังจากกลับมาประเทศไทย นายทักษิณ ได้ไปโชว์วิชั่น (Vision for Thailand 2024) ที่สยามพารากอนเป็นครั้งแรกโดยได้พูดเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตในงานไว้ว่า "ทางคณะกรรมการมที่รับผิดชอบเล่าว่า จะใช้เงินงบประมาณก้อนแรก 1.45 แสนล้านบาทแจกเงินให้กับกลุ่มกลุ่มเปาะบางและคนพิการ 14.5 ล้านคน คนละ 10,000 ทันทีภายในเดือน ก.ย."

หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาแถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรกซึ่งมีมติเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวนไม่เกิน 12.4 ล้านราย และคนพิการจำนวนไม่เกิน 2.15 ล้านราย เป็นจำนวนจ่ายเป็นสด 10,000 บาท/คน จะเริ่มทยอยจ่ายเงินตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2567 เป็นต้นไป

ต่อมานายทักษิณ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยที่จ.อุดรธานี เพื่อช่วยผู้สมัครนายกฯอบจ. และกล่าวไว้ว่า "เงินหมื่นได้แล้ว เดี๋ยวมาอีก ใครอายุเกิน 60 ปี เห็นว่า เงินหมื่นจะมาแล้วนะ"

ผ่านไปไม่นาน รัฐบาลก็ประกาศที่แจกเงินสด 10,000 บาทเฟส 2 ให้กับเฉพาะผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยคาดว่า ไม่เกินช่วงตรุษจีนปี 68 หรือไม่เกินวันที่ 29 ม.ค.68

นอกจากนี้ นายกฯ ยังเน้นย้ำในวันฉายภาพนโยบายว่า ดิจิทัลวอลเล็ต เดินหน้าแจกเงินหมื่นเฟส 2 ก่อนตรุษจีน และเฟส 3 สำหรับบุคคลทั่วไปเป็นการแจกผ่านดิจิทัลวอลเล็ตในปีหน้า

*นโยบายแก้หนี้คนไทย ลูกหนี้รายย่อย รถ-บ้าน-SMEs

นโยบายนี้ นายทักษิณ ได้พูดบนเวทีปราศรัยที่อุดรธานีไว้ว่า "เรื่องหนี้ เป็นเรื่องใหญ่ในหัวใจของนายกฯ เรียกประชุมเป็นประจำหาทางที่จะเอาเงินที่ธนาคารทั้งหลายจ่ายให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็พยายามขอลดการส่งตรงนั้น เพื่อเอาเม็ดเงินมาใช้ในการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับประชาชน เพื่อให้ 3 ปีไม่ต้องจ่ายดอกที่จ่ายไปทุกบาทเป็นต้นหมด และหลังจากนั้นลบจากบัญชีเครดิตบูโร ก็จะกลายเป็นคนสร้างหนี้ใหม่ได้ในการทำมาหากิน"

ขณะที่นายกฯ "อิ๊งค์" พูดเรื่องนี้ในวันฉายภาพนโยบายไว้ว่า การแก้หนี้ครัวเรือน เน้นที่หนี้ "รถยนต์" และ "บ้าน" โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมธนาคาร ตกลงที่จะลดการส่งเงินเข้ากองทุนฟื้นฟูลง 0.23% ซึ่งเป็นเงินกว่า 39,000 ล้านต่อปี และธนาคารพาณิชย์จะเติมให้อีก 39,000 รวมกันเป็น 78,000 ล้านบาทต่อปี เพื่อพักดอกเบี้ย 3 ปี ให้ลูกหนี้จ่ายคืนเงินต้นได้เต็มจำนวน โดยจะเริ่มดำเนินการในต้นปี 2568 พร้อมมาตรการประนอมหนี้แบบพิเศษที่จะล้างหนี้ให้ทั้งหมด สำหรับลูกหนี้มูลหนี้ต่ำกว่า 5,000 บาท

*นโยบาย ODOS 1 อำเภอ 1 ทุนการศึกษา 1 ซัมเมอร์แคมป์"

สำหรับนโยบายนี้ ถือเป็นการสานต่อนโยบายในสมัยที่นายทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลไทยรักไทย มี 1 อำเภอ 1 ทุน เป็นการเปลี่ยนเงินใต้ดินเป็นหวยบนดิน 1 แสนล้านเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้นักเรียน ให้นักเรียนเรียนดีแต่ขาดโอกาสได้ศึกษาต่อต่างประเทศแบบไม่มีข้อผูกมัด

นายกฯ "อิ๊งค์" ได้นำเสนอนโยบายนี้ว่า ?หนึ่งอำเภอ หนึ่งทุน? หรือ ODOS กลับมาอีกครั้ง โดยใช้งบประมาณจากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล รวมทั้งมีโครงการที่เปิดโอกาสให้เด็กไทยได้ไปฝึกภาษาที่ต่างประเทศเป็นเวลาสั้น ๆ ในโครงการ ?1 อำเภอ 1 ซัมเมอร์แคมป์? และโครงการอัพเกรดโรงเรียนประจำอำเภอ ทำให้เป็นโรงเรียนต้นแบบ เติมครู เติมเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษา และ AI ให้เด็ก ๆ ในทุกอำเภอ

*นโยบาย รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย

นายทักษิณ พูดถึงนโยบายนี้ ในงาน Vision for Thailand 2024 ที่สยามพารากอนว่า "รถไฟฟ้า 20 บาท คงต้องทำ เพราะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยยืนยันว่า เราพูดไปแล้วต้องทำให้ได้ เราอาจต้องเวนคืนรถไฟฟ้าที่เอกชนบริหารกลับมาเป็นของรัฐ แล้วจ้างเอกชนเป็นคนบริหาร เพื่อเรากำหนดราคาตั๋วเอง และเราก็ต้องตั้งเป็นกองทุนโครงสร้างพื้นฐานขึ้นมา จะขยายเส้นทางเพิ่มเติมเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการใช้บริการได้ และยืนยันได้เห็นทุกสายภายในปี 68 แน่นอน

*นโยบายบ้านเพื่อคนไทย ให้สิทธิคนไทย

เรื่องนี้นายทักษิณ เคยได้พูดไว้ในเวทีปราศรัยที่อุดรธานี ในช่วงหนึ่งว่า "ใครอยากมีบ้าน แล้วยังไม่ได้บ้าน ไม่ต้องดาวน์ ผ่อนเดือนละ 4,000 บาท สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นและเห็นได้ในรัฐบาลนี้

นายกฯ "อิ๊งค์" พูดเรื่องนี้ในวันนำเสนอนโยบายไว้ว่า บ้านเพื่อคนไทย ใช้ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) สร้างคอนโด "บ้านเพื่อคนไทย" ผ่อนยาว 30 ปี เดือนละ 4,000 บาท ได้สิทธิอาศัยอยู่ 99 ปี จะเห็นห้องตัวอย่างในปี 68

*นโยบายลงทุนครั้งใหญ่

นอกจากนั้น ยังมีบางนโยบายที่นายทักษิณ ได้แสดงวิสัยทัศน์ไว้ เช่น เรื่องนโยบายการลงทุนครั้งใหญ่ในอนาคต ซึ่งเคยพูดเรื่องนี้ ตอนขึ้นเวทีปราศรัยที่อุดรธานีว่า "วันนี้เงินในโลกมันเยอะมาก แต่เงินไปที่ ที่ทำเงินให้มัน เงินไม่มาที่ไม่มีตังค์ วันนี้ประเทศไทยกำลังจูงใจให้นักธุรกิจใหญ่ ๆ ให้มาลงทุนในไทย เมื่อเข้ามาแล้วสร้างงาน มีรายได้มากขึ้น แต่ผมบอกว่า สิ่งที่สำคัญที่สุด การกระจายความเจริญสู่ต่างจังหวัด"

สำหรับเรื่องนี้ถือเป็นอีกเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยนายกรัฐมนตรีก็ได้พูดไว้ในวันแถลงนโยบายว่า รัฐบาลตั้งเป้าจะเป็น AI Hub ของภูมิภาค เนื่องจากในปัจจุบันมีบริษัทใหญ่มาลงทุนทำศูนย์ข้อมูล (Data center) เป็นเงินลงทุนมากกว่าล้านล้านบาทแล้ว

*นโยบายยาเสพติด

รวมไปถึงปัญหายาเสพติด ที่สมัยนายทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ลุยปราบยาเสพติด จนอาจมีข้อครหาว่า "มีการฆ่าตัดตอน" แต่ปัญหานี้ยังเป็นปัญหาสังคมอยู่จนทุกวันนี้ ซึ่งในการขึ้นเวทีปราศรัยที่อุดรธานี นายทักษิณ ก็ได้พูดถึงเรื่องนี้เช่นเดียวกันว่า "สมัยตนเป็นนายกฯอยู่ ยาเสพติดหายหมดไหม "พี่น้องช่วยไปบอกพ่อค้าขายยาด้วยว่า วันนี้ทักษิณกลับมาแล้ว ทักษิณนี่นะเกลียดพ่อค้าขายยามาก ไม่อยากเห็นหน้าสักคนเลย มาแล้วนะ บอกให้มันรู้ด้วย และให้ไปบอกตำรวจด้วย"

ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลก็ให้ความสำคัญไม่น้อยกว่าเรื่องอื่น ๆ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ระบุว่า จะต้องมีมาตรการที่เข้มงวดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะปัญหายาเสพติดจะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ โดยรัฐบาลจะสร้างแพลตฟอร์มที่ให้ประชาชนสามารถเข้ามาแจ้งเบาะแสยาเสพติดส่งตรงถึงนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเป็นความลับเพื่อความปลอดภัย ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหาจะนำรูปแบบของท่าวังผาโมเดล และร้อยเอ็ดโมเดลมาปรับใช้กับพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศ

ไม่เพียงเท่านั้น นายทักษิณ มักจะมีการทำนายทิศทางเศรษฐกิจไทยอยู่บ่อยครั้ง เสมือนช่วยเรียกความเชื่อมั่นให้กับรัฐบาล เช่น ล่าสุดในการสัมนาพรรคเพื่อไทยที่หัวหิน นายทักษิณก็ได้แสดงวิสัยทัศน์อีกครั้ง โดยเชื่อมั่นว่า สิ้นปี 2568 เศรษฐกิจจะฟื้นตัว และโตได้ 3.5 % ส่วนปี 69 โตถึง 4% พร้อมกับเปรยที่ควรมีการศึกษาการนำบิทคอยน์ การออกเหรียญดิจิทัล โดยมีพันธบัตรรัฐบาลรัฐบาลค้ำประกัน เพื่อทำให้เงินไหลเวียนในเศรษฐกิจ

ล่าสุด นายทักษิณ ขึ้นเวทีปราศรัยจังหวัดเชียงใหม่ ยืนยันการทำงานของรัฐบาลจะอยู่ครบวาระ 4 ปี พรรคร่วมรัฐบาลแม้จะมีเรื่องไม่เห็นด้วยกันบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดาเหมือนลิ้นกับฟัน อย่างไรก็ต้องอยู่ด้วยกันจนจบ

จะเห็นได้ชัดว่า นายทักษิณ รู้ถึงนโยบายของรัฐบาลเป็นอย่างดี ตกลงนโยบายรัฐบาลอยู่กับใคร ใครเป็นนายกฯตัวจริง ที่กำหนดทิศทางประเทศ ยังคงมาจาก "ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ" บรรดาคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะต้องฟังใคร?? วลีที่ว่า "ไม่ได้ครอบงำ แต่ครอบครอง" จริงหรือ???


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ