ปธ.ชาติพัฒนา ลั่นหนุนรัฐเต็มสูบดัน GDP ปี 68 โตทะลุ 3% รับอานิสงส์ศก.โลก-แจกเงินหมื่น-ตรึงค่าไฟ

ข่าวการเมือง Thursday January 2, 2025 11:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) ประเมินภาวะเศรษฐกิจในปี 68 จะดีขึ้นกว่าปี 67 แม้ในภาพรวมจะยังไม่ดีมากนัก แต่คิดว่าสถานการณ์จะกระเตื้องดีขึ้น เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่เติบโตมากกว่า 3% ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายแจกเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ การตรึงค่าไฟ และราคาพลังงานที่ไม่สูงจนเกินไป อีกทั้งความสำเร็จในการผลักดันตัวเลขนักท่องเที่ยวให้เพิ่มขึ้น และการส่งออกที่ดีขึ้น พร้อมเสนอแนะให้รัฐบาลเร่งส่งเสริมการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มากขึ้น และนโยบายท่องเที่ยวมากขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

"จีดีพีในปี 67 อาจไม่เกิน 3% แต่ปีหน้าจะได้แรงหนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากขึ้นถึง 40 ล้านคน จากปีนี้ที่มีจำนวน 35 ล้านคน รวมถึงความร่วมมือจากภาคเอกชน นโยบายซอฟท์พาวเวอร์ มาตรการลดหนี้ "คุณสู้ เราช่วย" และมาตรการลดหย่อนภาษี Easy E-Receipt 50,000 บาท รวมไปถึงการแจกเงิน 10,000 บาทในเฟส 2 และเฟสต่อไป จะทำให้เกิดกำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจทั้งภาคบริการ การท่องเที่ยว สินค้าชุมชนมากขึ้น คาดว่าจีดีพีปีนี้อาจโตมากกว่า 3%" นายสุวัจน์ กล่าว

สำหรับ ชพน.ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล จะสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลอย่างเต็มที่ แต่ก็มองว่ายังประมาทไม่ได้เพราะเคยเจอวิกฤตการณ์ที่ไม่คาดไว้ก่อนมาแล้ว เช่น การระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งขณะนี้ถือว่ายังมีสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจอีกหลายเรื่อง อาทิ เรื่องสงคราม ภูมิรัฐศาสตร์ และ ราคาพลังงาน

รวมถึงนโยบายเศรษฐกิจของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะขึ้นภาษีนำเข้ากับประเทศคู่ค้าที่ทำให้สหรัฐฯ ขาดดุลฯ ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในนั้น ย่อมจะทำให้เกิดกำแพงภาษีหรือสงครามการค้าที่กระทบต่อเศรษฐกิจโลกในวงกว้าง ดังนั้นการรักษาวินัยการคลังจึงเป็นเรื่องสำคัญ เราต้องมีเม็ดเงินสำรองไว้สำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน

"เศรษฐกิจไทยในปี 68 จะดีขึ้นในระดับใดขึ้นอยู่กับการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเราก็พร้อมจะทำงานช่วยสนับสนุนรัฐบาลอย่างเต็มที่" นายสุวัจน์ กล่าว

ส่วนกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไม่เห็นด้วยกับนโยบายแจกเงินดิจิทัลเฟส 3 เพราะเกรงจะส่งผลกระทบต่อฐานะทางการเงินการคลังของประเทศนั้นก็เป็นบทบาทในการทำหน้าที่ของ ธปท.ที่ต้องท้วงติงนโยบายที่จะมีผลต่อฐานะทางการเงินการคลังของประเทศ ซึ่งรัฐบาลก็พร้อมที่จะรับฟัง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ