นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) คาดว่า จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในช่วงเดือนก.พ. ส่วนการอภิปรายที่จะเกิดขึ้นจริง ต้องไปเจรจากับวิปร่วม เพื่อกำหนดวันให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ล็อกวันที่จะมาชี้แจง
"กรอบกว้าง ๆ น่าจะอยู่ที่ราวปลาย ก.พ. หรือต้น มี.ค. หรืออาจจะขยับไปสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมีนาคม โดยจะไม่ช้าไปกว่านั้น" ประธานวิปฝ่ายค้าน ระบุ
สำหรับประเด็นในการอภิปรายนั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า จะมีหลายเรื่อง ทั้งระดับนโยบายหรือการบริหารราชการที่ล้มเหลว รวมไปถึงกรณีต่อการทุจริตคอรัปชั่น เช่น การเอื้อกลุ่มทุนผูกขาด การเอื้อตัวบุคคลบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม เรื่องนโยบายที่ล้มเหลวเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ส่วนจะมีจำนวนรัฐมนตรีที่ถูกล็อกเป้าอภิปรายเกิน 10 คนหรือไม่นั้น ยังไม่แน่นอน แต่เชื่อว่าจะเกือบครบทุกพรรคร่วมรัฐบาล และย้ำว่ากรณี "ชั้น 14" มีแน่นอน
"ทุกเรื่อง เราก็ตรวจสอบต่อเนื่องตลอดเวลาให้ได้เห็นอยู่แล้ว แต่อาจจะมีบางเรื่อง ที่ยังไม่เคยพูด และมีข้อมูลที่ได้มาจากทางหลังบ้าน ที่จะเห็นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในรอบนี้" นายปกรณ์วุฒิ ระบุ
ส่วนไม้เด็ดในการอภิปรายที่จะใช้น็อครัฐบาลนั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ช่วงนี้อยู่ในช่วงเช็คความถูกต้องของข้อมูล ถ้าเป็นเรื่องจริงและมั่นใจว่าเป็นข้อมูลจริง ก็จะได้เห็นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งนี้ ยอมรับว่าการเป็นเสียงส่วนน้อยในกลไกการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คงจะหวังได้ยากที่การลงมติจะทำให้น็อครัฐมนตรีได้
"แต่ก็ไม่แน่ เพราะพรรครัฐบาลง่อนแง่นกันอยู่ หากสมมติมีใครเปลี่ยนข้างขึ้นมา แล้วไปโหวตสวนในญัตติอภิปราย ก็ไม่แน่เหมือนกัน แต่ทุกครั้ง การน็อคกลางสภาฯ ของการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเกิดขึ้นน้อยมาก เพราะโดยสภาวะ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้อมูลเป็นหลัก แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมือง และสถานการณ์ความร้าวฉานของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นหลัก" นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
พร้อมระบุว่า สิ่งที่ฝ่ายค้านต้องการจริง ๆ คือหวังว่าจะมีการโหวตไปตามเหตุผลและข้อมูล แต่ถ้าไม่ได้ตามที่หวัง ก็คือการให้ข้อมูลกับประชาชนรับทราบว่าการทำงานของรัฐบาลมีการปกปิดข้อบกพร่อง หรือข้อทุจริตไว้ ซึ่งจะทำให้สังคมหันมาสนใจการเมือง และสนใจการใช้อำนาจตรวจสอบอำนาจบริหารของสภาฯ เป็นเรื่องที่สำคัญ
ส่วนจะมีข้อมูลเพียงพอหรือไม่ ในการซักฟอกนายกรัฐมนตรีที่เพิ่งเข้ามาทำงานได้ 3-4 เดือน รวมถึงกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่สังคมจับตาว่าพรรคประชาชนจะหยิบยกมาอภิปรายในครั้งนี้ด้วย และอาจถูกดักทางว่าเป็นคนนอกไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลนั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะอภิปรายเป็นรายบุคคล ซึ่งมีทั้งนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีในกระทรวงต่าง ๆ
พร้อมขอย้ำว่า รัฐบาลนี้ไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา แต่เป็นรัฐบาลที่ทำงานมาแล้วกว่า 1 ปี หน้าตาเหมือนเดิม ปรับเปลี่ยนแค่พรรคเดียว
"ดังนั้น 1 ปีกว่า ควรต้องพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า มีผลงานอะไรที่เป็นรูปธรรม ข้ออ้างที่ว่าเพิ่งมาเป็นนายกรัฐมนตรีไม่กี่เดือน ไม่ใช่เป็นข้ออ้างที่สมเหตุสมผล" นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
พร้อมระบุว่า สำหรับกรณีการอภิปรายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น คงไม่ใช่เป็นเรื่องของนายทักษิณโดยตรง แต่อาจมีเรื่องพฤติกรรมของฝ่ายบริหารที่บิดเบือนกระบวนการยุติธรรม เพื่อเอื้อให้บุคคลบางกลุ่ม ซึ่งคนทั้งประเทศก็คงจะรู้อยู่แล้วว่าเป็นเรื่องอะไร