นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อไทย (พท.) ลงพื้นที่ภาคอีสานต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เพื่อช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) โดยวันนี้เดินทางมาที่เทศบาล อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม เพื่อช่วยนายพลพัฒน์ จรัสเสถียร หาเสียงลงชิงตำแหน่งนายก อบจ.
โดยระบุว่า ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยสนใจการเมืองท้องถิ่น เพราะไม่คิดว่าต้องใช้ประโยชน์มาก แต่วันนี้ตนจริงจังมากเรื่อง อบจ. เนื่องจากต้องพัฒนาคน มีกลไกท้องถิ่นเพื่อคัดคนที่ต้องการพัฒนาตัวเอง สร้างโอกาสให้คนไทยได้ไปมีชื่อเสียงในต่างประเทศ ซึ่งจำเป็นต้องพัฒนะทักษะความรู้ อาศัยความร่วมมือจาก อบจ. และมหาวิทยาลัยในพื้นที่ในการคัดเลือก และฝึกอบรม
"จำเป็นอย่างยิ่ง ที่อยากได้นักการเมืองท้องถิ่นที่เป็นเพื่อไทย ที่จะได้ช่วยกันคัด และพี่น้องจะได้ช่วยกันใช้นักการเมืองท้องถิ่นของเรา ส่งข้อมูล ข้อความทั้งหมดไปยังรัฐบาล จึงขอพี่น้องช่วยคัดมือไม้ให้หน่อย มือไม้ของผม ก็คือนายก อบจ. และสมาชิก อบจ.
นายทักษิณ กล่าวด้วยว่า วันนี้ อยากเห็นจริง ๆ ว่าชาวมหาสารคาม ต้องเปลี่ยนนายก อบจ.ได้แล้ว เปลี่ยนมาอยู่ในมือพรรคเพื่อไทย จะได้เชื่อมโยงระหว่างรัฐบาลกับท้องถิ่น
"ขอให้พี่น้องช่วยสนับสนุน ผู้สมัครเรา แล้วอย่าลืมเลือก สจ.ให้ด้วย ไม่งั้นทำงานไม่ได้ เลือกตั้งทั้งทีอย่าขี้เหนียว ทุ่มมาเลย เพื่อไทยอย่างเดียวเลย เบอร์เดียวเลย ทีนี้เราจะได้ทำงานกันได้อย่างเต็มที่ อย่าไปรักพี่เสียดายน้อง ทุ่มให้เลยรับรองว่าไม่เคยผิดหวัง ลองมองผ่านมา 20 ปีใครทำงานรับใช้พี่น้องให้เศรษฐกิจดี ส่วนที่มีปัญหาทุกรอบ ก็เพื่อไทยมาแก้ทั้งนั้น...วันนี้ จังหวัดมหาสารคาม ก็มีอดีตรัฐมนตรีหลายคน อนาคตก็จะมีรัฐมนตรีอีก และหากปี 2570 นายกฯ อิ๊งค์ กลับมารอบ 2 จะเจอแบบไทยรักไทยแน่นอน พวกเรามีผลงาน เวลาพูดอะไรทั้งหมด" อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าว
นายทักษิณ ยังกล่าวถึงกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ว่า มีบางคนไปพูดว่าเปิดแค่กาสิโนนั้น เป็นการบิดเบือน เพราะคำว่า "สถานบันเทิงครบวงจร" มีทั้งการจัดคอนเสิร์ต ร้านอาหาร ศูนย์การประชุม โรงแรมขนาดใหญ่ มีการลงทุนระดับแสนล้าน ซึ่งจะทำให้มีเงินลงทุนไหลเข้าประเทศไทยจำนวนมาก เกิดการจ้างงานตามมาไม่ต่ำกว่า 20,000 คน มีเงินเดือนขั้นต่ำ 20,000 บาท ซึ่ง "กาสิโน" เป็นเพียงพื้นที่ไม่ถึง 10% ของสถาบันบันเทิงครบวงจรทั้งหมด
ความกังวลของสังคมในเรื่องการพนัน หรือการเก็บภาษีจากการเปิดกาสิโนนั้น ไม่ใช่รัฐบาลสิ้นไร้ไม้ตอก แต่มันคือผลพลอยได้ สิ่งที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะทำนั้น เป็นผลประโยชน์ต่อประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร
"ผมคิดเรื่องนี้ก่อนสิงคโปร์อีก ตอนสมัยไทยรักไทย ผมคิดปุ๊บ ปรากฏว่าประเทศไทยค้านทันที เพราะคนไม่รู้เรื่อง โดยเฉพาะพวกมือถือสาก ปากถือศีล สุดท้ายสิงคโปร์ไปทำก่อน ปรากฏว่ามีต่างชาติมาท่องเที่ยวเยอะมาก แต่ของเราทำตาปริบ ๆ ไป 20 ปี วันนี้ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วย และเข้าใจ สนับสนุน เราก็ควรจะต้องทำ ไม่อย่างนั้นประเทศไทยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง อยู่ไปวัน ๆ บังคับให้เขาทำงาน ทำไร่ ไม่มีโอกาสพัฒนาตัวเอง" นายทักษิณ ระบุ
นายทักษิณ กล่าวว่า ปัญหาเศรษฐกิจรอบนี้หนักกว่าต้มยำกุ้ง ปี 2540 เพราะฐานรากคือคนชนบท ถูกทำลายทางเศรษฐกิจ แต่ยังแก้ได้อยู่ ตอนสมัยต้มยำกุ้ง เอาหัวแยก แต่ขายังแข็งแรง มันก็ฟื้นง่าย เหมือนบ้านที่ลมพัดหลังคาปลิว แต่ฐานยังอยู่ ก็ซ่อมไปจนเสร็จ
"แต่ตอนนี้ เสาเอียง การซ่อมมันยากขึ้น แต่ก็ยังทำได้ ผมอยู่ ผมมั่นใจว่าทำได้ รับรองเลยว่าปี 2570 เพื่อไทยกลับมาใหม่ ขอช่วยกรุณาให้กำลังใจครั้งนี้อีกครั้ง ให้ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย" นายทักษิณ กล่าว
พร้อมทิ้งท้ายว่า หลังจากที่ "โดนัล ทรัมป์" ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ประกาศจะเอาเงินคริปโทฯ มาเป็นวาระเร่งด่วนของรัฐบาลนั้น ทั่วโลกต่างตื่นตัวหมด แต่พรรคเพื่อไทย ได้เคยหาเสียงไว้ก่อนแล้ว เรารู้ว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นแน่ ดังนั้นเราพร้อมแล้ว
"ตอนเลือกตั้ง ทั้งเรื่องคริปโทฯ บล็อกเชน ประเทศอื่นเตรียมตัวไม่ทัน แต่เราพร้อมแล้ว ถ้าเรารับสิ่งเหล่านี้เข้ามา โดยตัดความเสี่ยงออกไป จะเกิดเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจมากมาย ถ้าเราช้า เม็ดเงินก็ไปที่อื่น เราก็เอาเงินมาสร้างเศรษฐกิจ...เรามั่นใจว่าเราทำได้ และปี 70 จะเป็นปีที่เก็บเกี่ยวสิ่งที่เราทำในรอบนี้ ขอไว้วางใจ และเชื่อผม และให้มือผมไปทำงานอีกรอบหนึ่ง" นายทักษิณ กล่าว
นายทักษิณ กล่าวว่า ตนพยายามเอาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามา แต่ยิ่งใหม่ยิ่งถูกต่อต้าน การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างจะต้องมีคนไม่เห็นด้วยและเห็นด้วย แต่ขอให้มั่นใจว่าสามารถทำให้ประเทศนี้เจริญได้
โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะทำหน้าที่เป็นกองหน้า ส่วนตนจะเป็นกองหลัง คอยคิดคอยนำเสนอเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง และมีมือไม้ใน ครม. สส. และต่อไปเป็นองค์กรท้องถิ่น ซึ่งก็ขอให้เลือกนายก อบจ.เป็นของเพื่อไทย