นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีความร่วมมือระหว่างไทยและจีน ในการเดินหน้าปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ ว่า ไทยและจีน มีความร่วมมือกันอย่างดีในการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และขอร้องประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมา เนื่องจากมีปัญหาการสู้รบ และแน่นอนว่ารายได้ส่วนหนึ่งในการสู้รบ ก็มาจากกระบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และยาเสพติด เพราะฉะนั้นหากไม่จัดการที่ต้นเหตุ ปัญหาก็ไม่จบ
"แน่นอนว่า หากจัดการที่ต้นเหตุ ชุมชนในฝั่งเมียนมาได้รับความเดือดร้อน แต่ชุมชนก็ต้องคิดว่าจะไปโอบอุ้มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทำไม หากเขาไล่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ออก เราก็ดูแลส่งไฟ ส่งสัญญาณโทรศัพท์ให้เหมือนเดิม แต่วันนี้ เราต้องห่วงคนไทยฝั่งนี้ ที่โดนหลอกมากกว่า" นายทักษิณ กล่าว
ส่วนกรณีการตัดไฟ้าในจุดชายแดนไทย-เมียนมา เพื่อหวังให้มีผลกระทบต่อฐานที่ทำการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ก็ยังพบว่าไปใช้ไฟจาก สปป.ลาวแทนนั้น นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ก็เปลี่ยนเป็นไม่ให้นำเข้าน้ำมันไปปั่นไฟแทน
"น้ำมันเราก็บล็อก เราไม่ให้เอาน้ำมันเข้าไปปั่นไฟ หากมีการส่งผ่านทางสปป.ลาว คงไม่สะดวก" นายทักษิณ กล่าว
ส่วนฝั่งประเทศกัมพูชา ก็มีข้อมูลชัดเจนขึ้น ว่าใครเป็นใคร และต้องขอความร่วมมือให้ได้
"เราก็รู้อยู่ ว่าที่ปอยเปตตึก 25 ชั้นเป็นของใคร และคนนี้ มีสัญชาติไทยด้วย เมื่อถึงเวลาจะถอนสัญชาติ" นายทักษิณ กล่าว