ฝ่ายค้านเข้าชื่อถอดถอน"จักรภพ"ชี้จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อ กม.-รธน.

          นายสาธิต วงศ์หนองเตย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) เปิดเผยว่า ส.ส.ฝ่ายค้านทั้ง 164 คนได้เข้าชื่อกันเพื่อยื่นเรื่องต่อประธานวุฒิสภา เพื่อขอถอดถอนนายจักรภพ เพ็ญแข ออกจากตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เนื่องจากมีข้อกล่าวหาและพฤติการณ์ที่ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อกฎหมาย และส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
          ทั้งนี้นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ได้รับเรื่องไว้และระบุว่า จะรีบยื่นให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) โดยเร็ว
          โดยประเด็นที่ส่อว่าจงใจใช้อำนาจที่ขัดต่อกฎหมายมี 3 กรณี คือ กรณีการกำกับดูแลสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที(NBT) ของกรมประชาสัมพันธ์ ที่มีความไม่โปร่งใสในขั้นตอนการจัดหาจัดจ้าง และการทำสัญญาที่ให้เอกชนผลิตข่าวแต่เพียงผู้เดียว โดยไม่เปิดให้มีการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม ซึ่งเป็นความผิตามมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542, 
          กรณีการประชุมผู้ประกอบการวิทยุชุมชน ซึ่งหลายครั้งนายจักรภพมีพฤติการณ์ส่อว่าจงใจใช้อำนาจที่ขัดต่อมาตรา 78, 79 ใน พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ด้วยการมีพฤติการณ์ข่มขู่ให้ผู้ประกอบการวิทยุชุมชนเข้ามาเป็นเครือข่ายของรัฐบาลและของกรมประชาสัมพันธ์ และ
          กรณีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ล่าช้า เพื่อเอื้อให้ใช้อำนาจหน้าที่เข้าไปแทรกแซงควบคุมวิทยุชุมชน อันเป็นการกระทำที่ขัดต่อ พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551
          ส่วนประเด็นที่นายจักรภพส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มี 3 พฤติการณ์ที่เข้าข่าย คือ การยื่นข้อเสนอต่อผู้ประกอบการวิทยุชุมชนให้ยอมรับเงื่อนไขของรัฐบาลที่จะให้เป็นเครือข่ายในการนำเสนอข่าวสารของรัฐบาลเพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี ซึ่งเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ขัดต่อมาตรา 46 ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550, 
          การสั่งให้ออกระเบียบห้ามสื่อของรัฐสนับสนุนการรัฐประหาร ซึ่งพฤติการณ์นี้ถือเป็นการละเมิดมาตรา 46 วรรค 2 ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่เป็นการแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ปฏิบัติงานในองค์กรสื่อมวลชนของรัฐ ทำให้ไม่กล้านำเสนอข่าวสารได้อย่างอิสระ เที่ยงธรรมตามหลักจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ และ
          การสั่งถอดผู้ดำเนินรายการและการเรียกคืนคลื่นวิทยุ เช่น กรณีการสั่งถอดนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ผู้ดำเนินรายการทางสถานีวิทยุ ที่นำเสนอบทความวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ตลอดจนการแทรกแซงสื่อมวลชนด้วยการนำสถานีวิทยุกระจายเสียง 5 คลื่น กลับมาให้กรมประชาสัมพันธ์ดำเนินการเองแทนเอกชน