นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) รับคดีฮั้วสว.เป็นคดีพิเศษ อาจทำให้การทำงานของรัฐบาลไม่ราบรื่นว่า ไม่เกี่ยวกันเลย ต้องไปดูว่าจุดเริ่มเริ่มอย่างไร ซึ่งเริ่มที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้ง DSI เป็นคณะกรรมการร่วมในการสอบ และ DSI ก็ทำงานต่อ
อย่างไรก็ตาม นายทักษิณ ยอมรับว่า ในการพูดคุยกับนายเนวิน ชิดชอบ และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เรื่องสว. โดยได้บอกไปว่าเมื่อขบวนการเริ่มไปแล้ว ก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการ ไม่มีใครสามารถบิดเบี้ยวหรือหยุดกระบวนการได้
"เราเป็นพรรคร่วมก็ต้องพูดคุยกันเป็นเรื่องธรรมดา ผมก็ถือว่า เป็นคนแก่ทางการเมือง ก็มีคนแวะไปปรึกษา แต่ไม่มีอำนาจสั่งการใด ๆ ทั้งสิ้น ก็ให้คำปรึกษาในฐานะคนที่เคยทำงานด้วยกันมา เคยเป็นหัวหน้า และเขาเคยเป็นลูกพรรค เป็นเรื่องธรรมดาไม่มีอะไร ส่วนเขาจะเชื่อหรือไม่เป็นเรื่องเขา"
นายทักษิณ ได้ตอบคำถามถึงความสัมพันธ์ของพรรครัฐบาลแน่นแฟ้นดีหรือไม่ โดยระบุเพียงว่า "ก็ไม่เห็นมีอะไร"
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมจะอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 โดยจะมีการพาดพิงถึงตนนั้น นายทักษิณ กล่าวว่า ตนไม่ได้เป็นสส. ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี จะทำไปเพื่ออะไร หรือจะดิสเครดิตเพื่อการเลือกตั้งครั้งหน้า เหลืออีก 2 ปี ขอให้ใจเย็น ๆ อย่าเพิ่งรีบเลือกตั้ง ไม่ต้องหาเสียง
ทั้งนี้ หากฝ่ายค้านไม่ถอนชื่อออกจากญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรีจะผ่านตรงนี้ไปได้หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเรื่องธรรมดา การใส่ร้ายป้ายสีก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องมี แต่การจะบรรจุญัตติที่มีบุคคลภายนอกเป็นเรื่องของประธานสภา ไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาล ส่วนที่จะมีการใช้คำอื่นแทนชื่อนั้นไม่มีปัญหา ตนรับได้หมด ขอให้เป็นไปตามกติกาของรัฐสภา
นายทักษิณ กล่าวถึงมาตรการแก้ปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าเรื่องนี้ขอเวลานิดนึงเนื่องจากตนเพิ่งเริ่มลงไป และได้มีการพบกับกลุ่มบีอาร์เอ็น เมื่อตอนไปมาเลเซีย ก็คิดว่าคงต้องพูดคุยกันต่อ ซึ่งต้องพูดคุยกันให้สะเด็ดน้ำ โดยยืนยันว่าแก้ปัญหาได้ ยกตัวอย่างเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตนก็เคยบอกว่าสิ้นปีนี้จะจบ และยาเสพติดต้องเอาให้จบให้ได้ ส่วนไฟใต้ก็ต้องให้เห็นช่องทางความสงบให้ได้เช่นกัน
ส่วนกรณีที่สหภาพยุโรป (EU) ประณามการส่งชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน และเตรียมออกมาตรการการกดดันทางการค้า นายทักษิณ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องเชิญทูต EU มาอธิบายว่าไทยได้ละเมิดสิทธิมนุษยชนของชาวอุยกูร์มา 10 ปีแล้ว เพราะเข้าเมืองผิดกฎหมาย และขังไว้กว่า 10 ปี ดังนั้นเราต้องส่งเขากลับบ้านได้แล้ว ประเทศจีนก็แสดงเจตจำนงชัดเจน และยืนยันว่า จะไม่ดำเนินคดีกับคนเหล่านี้ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เป็นช่องทางเดียวที่จะแก้ปัญหาสิทธิมนุษยชนที่เราละเมิดมานาน