นายสหัสวัต คุ้มคง สส. พรรคประชาชน อภิปรายถึงกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง นายสุชาติ ชมกลิ่น (อดีตรมว.แรงงาน สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) มาเป็น รมช.พาณิชย์ ในรัฐบาลปัจจุบัน โดยมองว่า ตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นตำแหน่งสำคัญของประเทศ จำเป็นต้องเลือกคนที่มีความรู้ความสามารถที่ตรงกับงานของกระทรวงเข้ามาดำรงตำแหน่ง ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่เคยต้องคดีร้ายแรง จึงต้องมีการคัดกรองคุณสมบัติว่า มีคดีหรือพฤติกรรมใดที่ส่อไปในทางที่ดูแล้วเป็นคนที่มีพฤติกรรมทุจริต เรียกรับผลประโยชน์ ทำตัวเป็นเจ้าพ่อมาเฟีย เอื้อพวกพ้องหรือไม่
ทั้งนี้ ตามขั้นตอนในการแต่งตั้งรัฐมนตรี โดยปกตินายกรัฐมนตรีจะต้องพิจารณาจากรายชื่อที่พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลส่งรายชื่อและประวัติเข้ามา จากนั้นสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะมีหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติอีกครั้ง ก่อนส่งหนังสือเวียนไปยังหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อสืบประวัติว่าเคยมีคดีหรือมีข้อร้องเรียนใดหรือไม่ และสุดท้ายนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ที่ใช้ดุลยพินิจ รับรองคุณสมบัติ และรับผิดชอบต่อรัฐมนตรีที่ตัวเองแต่งตั้งขึ้นมา
นายสหัสวัต กล่าวว่า การตั้งข้าราชการการเมือง จำเป็นต้องสืบประวัติจาก 7 หน่วยงาน รวมถึงให้คณะกรรมการกฤษฎีกาเข้ามาช่วยดูคุณสมบัติของรัฐมนตรีด้วย ซึ่งตนได้ข่าวว่ามีการคัดกรองคุณสมบัติอย่างเข้มงวด จนทำให้หลายคนต้องหลุดจากโผ แต่ในกรณีของอดีต รมว.แรงงาน และ รมช.พาณิชย์คนปัจจุบัน ที่เข้าไปพัวพันคือคดีร้ายแรงอย่างคดีค้ามนุษย์ และยังมีชื่อเป็นตัวการหลักในการเรียกรับผลประโยชน์จากขบวนการที่ส่งแรงงานไทยเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ในต่างประเทศด้วย เชื่อว่านายกรัฐมนตรีย่อมทราบแน่นอน
ทั้งนี้ เพราะกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีมติส่งสำนวนไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบสวนตั้งแต่ต้นปี 67 และเมื่อทราบแล้ว อย่างน้อยก็ควรเอะใจบ้าง และใช้อำนาจในฐานะนายกรัฐมนตรีให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ช่วยหาประวัติหรือสำนวนคดีใน ป.ป.ช. เข้ามาพิจารณาร่วมก็ได้
"เรื่องนี้จึงน่าแปลกใจ เพราะกับคนอื่น นายกรัฐมนตรีดูจะเข้มงวดกับเรื่องคุณสมบัติเป็นอย่างดี แค่มีข้อสงสัยก็หลุดโผแล้ว แต่กับนายคนนี้ทำไมนายกรัฐมนตรีจึงยังคงแน่วแน่ ตั้งใจแต่งตั้งให้เข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เว้นเสียแต่ว่า เป็นเพราะนายกรัฐมนตรีตั้งใจตั้งคนแบบนี้ขึ้นมาเพราะมีดีลทางการเมือง ที่ต้องตั้งคนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าไปเป็นรัฐมนตรี" นายสหัสวัต กล่าว
นายสหัสวัต กล่าวถึงคดีที่รัฐมนตรีคนนี้เข้าไปมีส่วนพัวพันว่า สำนวนคดีจากทางประเทศฟินแลนด์ มีหลักฐานชัดเจนว่ารัฐมนตรีคนนี้เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการค้ามนุษย์ โดยในช่วงปี 65 ได้มีปัญหาร้องเรียนกับกรรมาธิการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร ว่าแรงงานที่ไปเก็บผลไม้ที่ยุโรปตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ โดยการไปแต่ละครั้ง จะต้องมีค่าใช้จ่ายให้บริษัทนายหน้าหลักเกือบแสนบาท
นอกจากนี้ เมื่อปลายปี 67 หลังจากที่ น.ส.แพทองธาร เข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว นอกจากกรณีของฟินแลนด์ ยังมีการฟ้องร้องที่สวีเดนเช่นกัน และตำรวจสวีเดนก็ได้ขออนุญาตเข้ามาสอบปากคำร่วมกันกับทางการไทยในเรื่องค้ามนุษย์ด้วยเช่นกัน
"คดีเดียวกันนี้ ในประเทศฟินแลนด์ ทางตำรวจสามารถเอาผิดข้าราชการระดับสูงในกระทรวงแรงงาน จนต้องติดคุก เพราะรับสินบนจากขบวนการค้ามนุษย์ไปแล้ว แต่ในประเทศไทย รัฐมนตรีคนนี้ กลับได้เป็นรัฐมนตรีต่อไป แถมไปอยู่ในกระทรวงพาณิชย์ด้วย" นายสหัสวัต ระบุ
นายสหัสวัต กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้กำกับดูแลหรือรับผิดชอบต่อรัฐมนตรีที่ตัวเองแต่งตั้งเลย อย่างในกรณีของประกันสังคมที่คนทั้งประเทศสนใจกันทั่วบ้านทั่วเมือง นายกรัฐมนตรีกลับไม่มีความกล้าหาญที่จะออกมาพูดอะไรสักคำ
"หรือเพราะนายกรัฐมนตรีต้องการปกป้องคนแบบนี้ เพราะดีลที่ทำไว้ ท่านกำลังทำ "ดีลแลกประเทศ" ด้วยการตั้งคน ๆ นี้มาเป็นรัฐมนตรี เงินภาษี และเงินของผู้ประกันตนไม่รู้กี่หมื่นล้านบาท ที่ต้องหายไปก็ไม่สนใจ เพียงเพราะว่าท่านต้องการจะปกป้องคนสำคัญคนนี้ไว้ใช่หรือไม่" นายสหัสวัต ตั้งคำถามทิ้งท้าย