นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการให้คำแนะนำแก่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีที่ประธานาธิบดีสหรัฐ "โดนัลด์ ทรัมป์" ประกาศนโยบายปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยในอัตรา 36% ว่า สหรัฐเลือกใช้สูตรนี้ เพราะต้องการให้แต่ละประเทศเข้าไปเจรจา ซึ่งวันนี้รัฐบาลได้ติดต่อขอเจรจากับสหรัฐฯ แล้ว น่าจะคืบหน้าไปด้วยดี คงจะส่งตัวแทนไปเจรจา ซึ่งนายกรัฐมนตรีประชุมวันนี้คงจะชัดเจนแล้วว่าจะส่งใครไปเจรจา
นายทักษิณ กล่าวว่า ระบบภาษี ระบบการกีดกันทางการค้าที่เราเคยมีในอดีตเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น แต่ไม่เคยแก้ไข จนเขามีความรู้สึกว่าเรากีดกันเขามากเกินไป เช่น รถจักรยานยนต์ ที่เขาผลิต "Harley?Davidson" มาแข่งอะไรกับคาวาซากิ ซูซูกิ ฮอนด้า ไม่แข่งหรอก แต่เราไปตั้งภาษีเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้ ก็คงต้องมาปรับในส่วนของเรา
"แต่ไม่ได้หมายความว่า เราจะยอมไปเสียทุกอย่าง ลดภาษีเหลือศูนย์ก็ได้ แต่ถ้าศูนย์ ก็ต้องศูนย์ทั้งสองฝ่าย" นายทักษิณ กล่าว
นายทักษิณ ยอมรับว่า วันนี้ปัญหาเศรษฐกิจหนักกว่าเดิมมาก มีปัญหาซ้ำเติมหลายอย่าง แต่เชื่อว่าน่าจะเอาอยู่ ซึ่งคงต้องใช้เวลา
"มันไม่เร็วเหมือนสมัยก่อน เมื่อก่อน ถ้าเศรษฐกิจเหมือนบ้านหลังหนึ่ง ก็เหมือนหลังคาพัง ซ่อมง่าย แต่วันนี้ปล่อยทิ้งไว้นาน ฐานรากมันแย่ เสาผุพัง ต้องใช้วิธีการซ่อมที่ยากขึ้น ใช้เวลามากขึ้น แต่มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ก็น่าจะซ่อมแซมได้ดีขึ้น" นายทักษิณ กล่าว
พร้อมยอมรับว่า การที่มีพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรค ย่อมทำให้การแก้ไขปัญหายากขึ้น เพราะมีหลากหลายความคิดเห็น บางทีก็ไม่สามารถชี้ให้เป็นทิศทางเดียวกันได้ทั้งหมด แต่จากการที่นายกรัฐมนตรีได้หารือกับพรรคร่วมรัฐบาลอยู่บ่อยครั้ง ก็เชื่อว่าจะทำความเข้าใจกันได้ดี
"มีพรรคร่วมเยอะ ก็นานาจิตตัง บางทีเราก็ไม่สามารถชี้ให้เป็นทางเดียวกันทั้งหมด ต้องเข้าใจ แต่ก็ไม่เหลือวิสัย สามารถทำงานได้ นายกรัฐมนตรีก็คุยกับพรรคร่วมบ่อย ๆ ก็น่าจะคุยกันรู้เรื่อง" นายทักษิณ กล่าว