นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธกระแสข่าวขับพรรคร่วมรัฐบาลออกหากไม่สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ว่า ที่ผ่านมามีการหารือทั่วไปกับพรรคร่วมรัฐบาลเป็นเพียงการถามความคิดเห็นของแต่ละคนก็ไม่ได้ขัดข้อง ไม่มีเรื่องข่มขู่ว่าใครไม่สนับสนุนแล้วต้องพ้นจากพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้มีการต่อรองยื่นหมูยื่นแมวกับพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อให้ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว "ไม่มีหมู ไม่มีแมว"
"ต้องพูดคุยกันด้วยเหตุผล เพราะบางคนก็เห็นด้วยครึ่งไม่เห็นด้วยครึ่ง แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องเสนอกฎหมายก็ต้องเสนอ โหวตรัฐบาลก็ผ่าน เพียงแต่รัฐบาลไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล"
ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่า มีการวางตัวผู้ที่จะได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานบันเทิงครบวงจรไว้ล่วงหน้าแล้วนั้น นายทักษิณ ยืนยันว่า ไม่มี ต้องมีการประมูลอย่างโปร่งใส ไม่มีใครสามารถจัดสรรได้นอกจากมีการประมูล หลายอย่างต้องให้เอกชนมาลงทุน เช่น ฮอลล์ หรืออารีน่าจัดคอนเสิร์ต หรือสวนสนุกขนาดใหญ่ที่จะเข้ามาลงทุน เราต้องการการลงทุนและการจ้างงานรวมไปถึงนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น และต้องการภาษีอย่างถูกต้อง โครงการนี้เป็นการพัฒนาประเทศตามปกติไม่มีอะไรซ่อนเร้น
อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลต้องอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ ไม่ต้องคิดอะไรบางพรรคเคยเห็นด้วยเมื่อก่อน เชียร์เต็มที่มีนโยบายพรรค แต่วันนี้ไม่เห็นด้วยแล้วคือจุดยืนไม่มี มีอย่างเดียวว่าเป็นฝ่ายค้านต้องค้าน เป็นฝ่ายรัฐบาลต้องเชียร์ แบบนี้ไม่ได้
นายทักษิณ กล่าวถึงการผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าวหากไม่ทันรัฐบาลนี้ ก็ให้รัฐบาลหน้ามาสานต่อได้ ซึ่งมั่นใจว่ารัฐบาลหน้าก็ยังเป็นพรรคเพื่อไทย
สำหรับกระบวนการการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าว อาจจะไปช้าที่ชั้น สว. หากไม่เห็นด้วยก็มีเวลา 180 วัน ส่วนที่ สว.ประกาศว่าหากร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านแล้วจะไปยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายทักษิณ กล่าวว่า สถานการณ์วันนี้ปัญหามันเกิดขึ้นระหว่าง สว.กับกระทรวงยุติธรรมก็เลยเป็นปฏิกิริยา เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้อง Action หรือ Reaction
อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นก็ต้องมีคนไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดา แต่เราก็ตั้งใจทำให้บ้านเมือง ไม่อยากเห็นบ่อนเล็กบ่อนน้อยเต็มไปหมด มีระบบตรวจสอบคนที่จะเข้าไปเล่น การยืนยันตัวตนที่เพิ่มความปลอดภัยทางการเงิน หรือ KYC ต้องรู้ประวัติและที่มาของเงิน ถ้าไม่มีอาชีพไม่มีรายได้ก็ไม่ให้เข้า อย่างตนก็เข้าไม่ได้ เพราะเป็นนักการเมืองเขาก็จะไม่ให้เล่น ขณะเดียวกันหากมีเงินแล้วเข้าไปเล่นเป็นประจำจนติดการพนันก็จะถูกนำไปบำบัด ไม่ใช่ปล่อยเลอะเทอะเหมือนในอดีตที่ไม่ดูแล มันเป็นระบบใหม่อยากให้ทุกคนเข้าใจ