นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า รัฐบาลได้ประสานที่จะขอเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญในวันที่ 28-30 พ.ค.68 เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 และร่าง พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และร่าง พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568
ทั้งนี้ หากพิจารณาทั้ง 3 วาระเสร็จสิ้นแล้วยังมีเวลาเหลือก็สามารถพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การประกอบกิจการสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) ต่อได้ เพราะเรื่องร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงฯ อยู่ในระเบียบวาระลำดับ 1 แต่หากไม่อยากให้พิจารณาก็ต้องเสนอเรื่องด่วนเข้ามาแทน
"เป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ ขึ้นอยู่กับรัฐบาล ไม่ได้ห้ามหยิบยกกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เข้ามาพิจารณาในช่วงการประชุมสมัยวิสามัญ" นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว
สำหรับจุดยืนของพรรคประชาชาติที่ไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์นั้น ตนไม่สามารถไปตอบแทนพรรคประชาชาติได้ เนื่องจากทำหน้าที่เป็นประธานรัฐสภา เวลาลงมติคนที่เป็นประธานฯ และรองประธานฯ ต้องงดออกเสียงอยู่แล้ว แต่ตนสามารถตอบในจุดยืนของศาสนาอิสลามได้ ส่วนพรรคประชาชาติจะมีท่าทีอย่างไรต้องรอให้ออกมาแถลงเอง
ส่วนหากโหวตพ.ร.บ.สถานบันเทิงฯ ไม่ได้จะมีปัญหากับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่เป็นเรื่องของพรรคประชาชาติ หลักศาสนาก็คือหลักศาสนา จุดยืนของพรรคก็คือจุดยืนของพรรค ตนอธิบายในฐานะที่เป็นผู้นับถือศาสนาอิสลาม เพราะที่ผ่านมาก็มีจุดยืนทั้งเรื่องสมรสเท่าเทียมและสุราก้าวหน้า เพราะเป็นสิ่งต้องห้ามทางศาสนา
ส่วนจะกลายเป็นประเด็นความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาลจนถึงขั้นยุบสภาหรือไม่ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เรื่องการยุบสภาเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ถ้ากฎหมายของรัฐบาลไม่ผ่าน สิ่งที่ต้องทำคือรัฐบาลต้องลาออกหรือยุบสภา แต่ตอนนี้ยังไม่มีประเด็น กฎหมายยังไม่ได้เสนอเข้ามา คิดว่ารัฐบาลควรต้องมีการประชุมวิปกันก่อนและน่าจะผ่านได้ เพราะการที่งบประมาณไม่ผ่านก็กระทบต่อการบริหารประเทศ
พร้อมกันนี้ยอมรับว่า ความกังวลที่มีต่อสถานการณ์ทางการเมืองมีมาตลอด ขึ้นอยู่กับการบริหาร แต่ต้องยอมรับว่าตอนนี้ทั่วโลกกังวลเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ ประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน กังวลทั้งปัญหาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว