นายดิมิทรี เมดเวเดฟ ประธานาธิบดีของรัสเซียจะเดินทางเยือนจีนในวันพรุ่งนี้ เพื่อพูดคุยโน้มน้าวให้จีนซึ่งเป็นประเทศที่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเร็วที่สุดในโลกเพิ่มการนำเข้าพลังงานจากรัสเซียมากขึ้น
นายเซอร์เก ซานาโกเยฟ ผู้อำนวยการศูนย์กลางการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจจีน-รัสเซียซึ่งเป็นสมาชิกของผู้แทนการค้าระดับทวีภาคีกล่าวว่า "แหล่งทรัพยากรธรรมชาติหลายแห่งของรัสเซียถูกส่งออกไปยังประเทศจีนเป็นส่วนใหญ่ และการหารือครั้งนี้จะมุ่งเน้นไปที่การกำหนดมาตรการเพิ่มการส่งออกสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูงไปยังประเทศจีนมากขึ้น
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การเดินทางเยือนจีนในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกของประธานาธิบดีเมดเดเวฟนับตั้งแต่เขาได้เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยนายเมดเดเวฟจะเดินทางเยือนประเทศคาซัคสถานเป็นแห่งแรกเพื่อเข้าพบกับประธานาธิบดีเนอร์ซัลตาน นาซาร์บาเยฟ
ฟีโอดอร์ ลักยานอฟ นักวิเคราะห์จากสภานโยบายทางทหารและต่างประเทศในกรุงมอสโคกล่าวว่า "การที่รัสเซียเลือกเดินทางเยือนประเทศคาซัคสถานเป็นแห่งแรกก็เพราะรัสเซียรับรู้ถึงบทบาทของคาซัคสถานในการเป็นอดีตประเทศสหภาพโซเวียตและการที่ประเทศเริ่มขยายอิทธิพลในภูมิภาคมากขึ้นเรื่อยๆ"
หนังสือพิมพ์ Kommersant ของรัสเซียระบุว่า คาซัคสถานเป็นประเทศใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของ 5 ประเทศที่มีพรมแดนติดกับทะเลสาบแคสเปี้ยนที่มั่งคั่งด้วยพลังงานและมีแหล่งน้ำมันประมาณ 3% ของโลก ซึ่งผู้นำคาซัคสถานจะเสนอให้มีการจัดตั้งสหภาพเศรษฐกิจกับรัสเซียขึ้นด้วย
ทั้งนี้ นายซานาโกเยฟกล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจจีนขยายตัวขึ้น 11.4% และในระหว่างที่นายวลาดิเมียร์ ปูตินดำรงตำแหน่งผู้นำรัสเซียตามวาระ 8 ปีนั้น ตัวเลขการค้าระหว่างจีนกับรัสเซียเพิ่มขึ้นเกือบ 5 เท่าแตะที่ 4.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวอาจขยายตัวขึ้นแตะระดับ 8.0 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2553
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--