ผู้แทนไต้หวันเดินทางถึงจีนแล้วเพื่อร่วมการเจรจาครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างสองดินแดน

          คณะผู้แทนไต้หวันเดินทางถึงกรุงปักกิ่งในวันนี้ เพื่อเริ่มการเจรจาครั้งประวัติศาสตร์ว่าด้วยการเปิดให้บริการเที่ยวบินตรงและเส้นทางท่องเที่ยวระหว่างสองดินแดน
          สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า คณะผู้แทนเจรจาของไต้หวันนำโดยนายเจียง ปิ่ง คุน ประธานมูลนิธิแลกเปลี่ยนข้ามช่องแคบไต้หวัน เดินทางด้วยเที่ยวบินเช่าเหมาลำจากกรุงไทเปผ่านทางมาเก๊า ถึงเมืองหลวงของจีนเมื่อเวลา 15.15 น. (14.15 น.ตามเวลาประเทศไทย)           
          ทั้งนี้ มูลนิธิแลกเปลี่ยนข้ามช่องแคบไต้หวันเป็นหน่วยงานกึ่งทางการของไต้หวัน ซึ่งมีหน้าที่ติดต่อสื่อสารโดยตรงกับจีนผ่านทางสมาคมเพื่อความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบไต้หวันของจีน โดยไต้หวันและจีนได้จัดตั้งมูลนิธิและสมาคมดังกล่าวขึ้นในปีพ.ศ. 2533 และ 2534 ตามลำดับ เพื่อดำเนินการเจรจาโดยตรงระหว่างกัน ด้วยเหตุที่ไม่มีการสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างสองดินแดน
          ไต้หวันและจีนไม่ได้จัดการเจรจาโดยตรงร่วมกันนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2542 เมื่อประธานาธิบดีลี เติง-ฮุย ของไต้หวัน ยืนยันว่าไต้หวันเป็นรัฐเอกราช ต่อมาความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบยังคงเย็นชาภายใต้การปกครองของประธานาธิบดีเฉิน สุย-เปียน ซึ่งผลักดันให้ไต้หวันเป็นรัฐเอกราชอย่างเป็นทางการ
          อย่างไรก็ดี ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันและจีนมีความเป็นมิตรมากขึ้นนับตั้งแต่ที่นายหม่า อิง จิว ได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพ.ค.และทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของไต้หวันเมื่อวันที่ 20 พ.ค. พร้อมประกาศจะเริ่มเปิดให้บริการเที่ยวบินเช่าเหมาลำโดยตรงระหว่างสองดินแดนในช่วงสุดสัปดาห์ และจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าประเทศได้ 3,000 คนต่อวัน เนื่องจากปัจจุบัน ไม่มีการเดินทางทางอากาศ การขนส่งทางเรือ และเส้นทางท่องเที่ยวโดยตรงระหว่างไต้หวันและจีน
          โดยนายหม่าสามารถรื้อฟื้นการเจรจาข้ามช่องแคบให้กลับคืนมาได้อีกครั้ง หลังจากที่เขาออกมายืนยันว่าไต้หวัน "เป็นส่วนหนึ่งของจีน" แต่ความหมายของถ้อยคำนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละฝ่ายจะตีความว่าอย่างไร