นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอให้จับตาดูการนัดชุมนุมครั้งใหญ่ของกลุ่มพันธมิตรฯ อีกไม่นานนี้ในปฏิบัติการเป่านกหวีด คาดว่าจะมีประชาชนที่สนใจเข้าร่วมชุมนุมนับล้านคน โดยมั่นใจว่าพลังบริสุทธิ์ที่เคยร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ในครั้งก่อนที่จะมีการปฏิวัติในปี 49 ยังไม่ได้ตีจากไปไหน
"แนวร่วมครั้งนี้กว้างขวางกว่าครั้งแรกเกิน 50% เรามีกลุ่มใหม่มากมาย 76 จังหวัดเต็มหมด ไม่มีจังหวัดไหนไม่มีเครือข่ายพันธมิตรฯ เลย ลองดูวันเป่านกหวีด ผมประเมินตัวเลขไว้ประมาณ 1 ล้านคน คอยดูว่าจริงไม่จริง"นายสมศักดิ์ กล่าวในรายการวิทยุเช้านี้
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ต้องรอการประชุมร่วมกันของกลุ่มแกนนำพันธมิตรฯ ว่าจะเริ่มปฏิบัติการเป่านกหวีดนัดชุมนุมครั้งใหญ่ในวันใด แต่ทั้งนี้จะนัดล่วงหน้าก่อนอย่างน้อย 2-3 วัน เพื่อให้เครือข่ายพันธมิตรฯ ที่อยู่ในต่างจังหวัดสามารถเข้ามาร่วมชุมนุมได้อย่างพร้อมเพรียงกัน
อย่างไรก็ดี ในวันนี้จะมีการนัดประชุมของสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจทั้ง 43 แห่งว่าจะเข้ามามีบทบาทหรือมีส่วนร่วมในการต่อสู้กับกลุ่มพันธมิตรฯ อย่างไร เพราะต่างมีเป้าหมายอย่างเดียวกันคือเห็นว่ารัฐบาลหมดความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศแล้ว และมั่นใจว่าจะไม่มีการนัดหยุดงานของบรรดารัฐวิสาหกิจต่างๆ เพราะเกรงว่าจะสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน
"วันนี้ต้องมาพูดคุยกำหนดท่าที และการที่สมาพันธ์ฯ จะมีบทบาทในการมีส่วนร่วมการต่อสู้ขนาดไหน เพราะมติในการต่อสู้มีอยู่แล้ว แต่การขยับมาตรการขึ้นมาต้องพูดคุยกันและสามารถปฏิบัติได้จริง เรื่องหยุดงานให้ประชาชนเดือดร้อนคงไม่ทำ แต่มาตรการอย่างอื่นคงคุยกัน ให้ที่ประชุมพิจารณากัน เราสู้ร่วมกันเอกภาพต้องเป็นหนึ่งเดียว แต่ใครที่จะทำอะไรมากน้อยแค่ไหนก็ทำตามความถนัด แต่เป้าหมายอันเดียวกัน คือรัฐบาลหมดความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศอย่างเด็ดขาดแล้ว"นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จุดยืนของกลุ่มพันธมิตรฯ ในขณะนี้ คือต้องการให้รัฐบาลลาออกทั้งคณะแล้วมีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งการเลือกตั้งใหม่จะต้องไม่ใช่กลุ่มก้อนเดิมพรรคพลังประชาชนที่ถือว่ามีที่มาจากระบอบทักษิณ เพราะหากเลือกตั้งแล้วได้คนกลุ่มเดิมกลับเข้ามาบริหารประเทศก็เท่ากับเป็นการเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์
และที่สำคัญรัฐบาลใหม่ที่จะมาจากการเลือกตั้งจะต้องไม่แตะต้องหรือแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 จนกว่าจะมีการดำเนินดคีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้น หรือแม้แต่หากพรรคประชาธิปัตย์เองถ้ามีโอกาสเข้ามาบริหารประเทศแล้วมีการบริหารประเทศอย่างไม่โปร่งใส หรือทุจริตคอรัปชั่นเกิดขึ้น กลุ่มพันธมิตรฯ ก็จะเดินหน้าขับไล่เช่นกัน
"ใครจะขึ้นมาอย่างไร ต้องไม่แก้รัฐธรรมนูญจนกว่าคดีต่างๆ จะถึงที่สิ้นสุด โดยเฉพาะคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคนที่ขึ้นมาต้องไม่ใช่พรรคพลังประชาชน ถ้าเอาคุณสมชาย น้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ ขึ้นมาจะหนักกว่า เพราะทั้งพรรคก็รู้อยู่ว่าไม่ว่าจะเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ หรือฝ่ายบริหารก็เป็นคนของระบอบทักษิณทั้งสิ้น ดังนั้นการเปลี่ยนคนแล้ววิธีคิด วิธีการทำงานเหมือนเดิม มันไม่มีประโยชน์ มันเหนื่อยเปล่า DNA เดียวกันไม่ได้เลย" นายสมศักดิ์ ระบุ
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--