นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า สถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจนถึงขณะนี้ ถือว่าไม่มีความรุนแรงใดๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ย้ำให้เห็นว่ารัฐบาลตลอดจนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติต่อกลุ่มผู้ชุมนุมตามที่ได้พูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะไม่ใช้กำลัง จึงส่งผลให้กลุ่มผู้ชุมนุมสามารถฝ่าแต่ละด่านสกัดเข้ามาได้ไม่ยากจนถึงหน้าทำเนียบรัฐบาล
"สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า รัฐบาลยืนยันนโยบายเดิมที่จะไม่ใช้กำลังและความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุม จึงเป็นเหตุให้กลุ่มผู้ชุมนุมสามารถผ่านแนวป้องกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาที่หน้าทำเนียบรัฐบาลได้โดยง่าย" รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ
ทั้งนี้จากเหตุการณ์ที่กลุ่มพันธมิตรฯ ฝ่าด่านแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาอยู่บน ถ.พิษณุโลก หน้าทำเนียบรัฐบาล ส่งผลให้มีตำรวจบาดเจ็บ 2 นาย คือ ตำรวจหญิงแขนหัก 1 นาย และตำรวจชายอีก 1 นายถูกแผงเหล็กขูดที่หน้าแข้ง
ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมอุปกรณ์ป้องกันเอาไว้ เช่น แก้สน้ำตา ถือว่าเป็นวิธีดูแลการชุมนุมประท้วงตามหลักปฏิบัติสากลที่ต้องเตรียมอุปกรณ์ไว้เพื่อป้องกันเหตุรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น แต่ไม่ใช่การเตรียมอุปกรณ์เพื่อหวังจะสลายการชุมนุม
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า จนถึงขณะนี้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี รวมทั้งรัฐบาลยังคงเดินหน้าบริหารประเทศต่อไป โดยจะไม่ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ต้องการจะให้นายกฯ ลาออกหรือประกาศยุบสภาฯ เพราะรัฐบาลชุดนี้ได้รับฉันทามติจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ และเป็นรัฐบาลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ต้องการจะแก้ไขปัญหาให้แก่ประเทศชาติอย่างทุ่มเทมาตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ตำรวจได้เปิดจุดสกัดทุกจุดเพื่อให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้ามาอยู่บริเวณถนนหน้าทำเนียบรัฐบาลแล้ว ขณะที่แกนนำพันธมิตรฯ ยืนยันว่าจะไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมรุกล้ำเข้าไปในบริเวณทำเนียบรัฐบาลอย่างเด็ดขาด พร้อมประกาศชัยชนะที่สามารถยึดพื้นที่หน้าทำเนียบรัฐบาลได้ และขณะนี้กำลังเตรียมจัดตั้งเวทีปราศรัยอยู่ที่บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ์
--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--