นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ไทยจะเสนอขอขึ้นทะเบียนส่วนประกอบของปราสาทเขาพระวิหารในส่วนที่อยู่ในความครอบครองของประเทศไทยเป็นมรดกโลก เพื่อป้องกันปัญหาทางกัมพูชาผนวกดินแดนของเราไปด้วยตามเอกสารที่เคยยื่นค้างไว้
"ปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ใช่จะร่วม หรือไม่ร่วม(ยื่นขึ้นทะเบียนกับกัมพูชา) แต่ถ้าอยู่เฉยๆ เขาจะมาผนวกดินแดนเราด้วย ความเร่งด่วนของงานเป็นการปลดชนวนก่อน เหมือนคนป่วยจะตายแล้วมีเลือดไหล มาหาผมก็ต้องหยุดเลือดก่อน" นายนพดล กล่าวทางรายการวิทยุเช้านี้
การดำเนินการของไทยครั้งนี้เป็นเพียงการแสดงความจำนงไว้เท่านั้น เพราะไม่สามารถดำเนินการได้ทันในเดือน ก.ค.นี้ เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษา โดยในส่วนของไทยที่จะยื่นขึ้นทะเบียน ประกอบด้วย 4 รายการ คือ สระตราว สถูปคู่ ปราสาทหินโบราณ และภาพนูนต่ำผามออีแดง
"ไม่ได้ยื่นร่วม ยื่นของเราต่างหาก แต่แน่นอนเขาต้องพิจารณาเป็นองค์ประกอบ ศาลโลกตัดสินผ่าเป็นสองซีก กัมพูชาก็ขึ้นทะเบียนในส่วนของเขา เราไม่ได้อยากจะให้เขา แต่ศาลโลกบังคับให้เราต้องให้เขา เมื่อให้เขาไปแล้วไม่มีกฎหมายไปทวงคืนได้ เว้นแต่ในอนาคตบอกว่าทวงได้ก็ว่ากันไป เราก็ไม่เสียสิทธิ์อยู่แล้ว" นายนพดล กล่าว
นับแต่ศาลโลกมีคำตัดสินแล้วเมื่อปี 2505 ก็ไม่ได้มีการดำเนินการทวงสิทธิ์ใดๆ และตนเองไม่ได้ไปสละสิทธิ์ดังกล่าว แต่เรื่องนี้เป็นความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศเพื่อนบ้านในการพัฒนาด้านการท่องเที่ยว
รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ข้อกล่าวหาในเรื่องนี้มีออกมาใหม่เรื่อยๆ พอชี้แจงได้แล้วก็เปิดประเด็นใหม่อีก ซึ่งตนเองคงไม่ยอมแพ้ความไม่ถูกต้อง เพราะสิ่งที่ทำไปถือว่าเป็นความถูกต้อง และกระทรวงการต่างประเทศมีหน้าที่รักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้ดี ไม่ว่าใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา
"คนอย่าง ผบ.ทบ.จะมายืนยันทำไมว่าถูกต้อง เพราะมันไม่ได้ละเมิดแผ่นดินของไทย...ถ้าอยากให้มันเลวก็ลองไปทวงปราสาทกลับคืนมาแล้วก็ไปประท้วง เดี๋ยวก็เผาสถานทูตเราอีก" นายนพดล กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--