นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร โยนให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรชี้ขาดในประเด็นรัฐมนตรีที่ไม่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจมีสิทธิ์ลงมติออกเสียงได้หรือไม่ แต่ส่วนตัวเห็นว่าเป็นสิทธิ์ส่วนตัวของ ส.ส.
"ให้สภาฯ วินิจฉัยว่าจะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงได้หรือไม่ แต่สิทธิ์ของ ส.ส.ก็ควรลงคะแนนเสียงได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบร่วมกันก็ส่วนหนึ่ง ความเป็น ครม.ก็ส่วนหนึ่ง" นายชัย กล่าว
ปัจจุบันสภาผู้แทนราษฎรมี ส.ส.รวม 470 คน แบ่งเป็น พรรคร่วมรัฐบาล 306 คน และฝ่ายค้าน 164 คน
ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ซึ่งเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เห็นว่า หาก รมต.ที่เป็น ส.ส.ซึ่งไม่ถูกอภิปรายไม่ใว้วางใจจะออกเสียงลงมติคงเป็นเรื่องไม่เหมาะสม เพราะถือว่ามีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้ พร้อมมองว่า การตัดคณะรัฐมนตรีไป 30 กว่าคนก็ไม่น่าจะทำให้คะแนนเสียงเปลี่ยนแปลงไป
ส่วนการลงคะแนนในวันพรุ่งนี้จะมีการแยกลงคะแนนเสียงเป็นคนละรอบ คือ ในรอบของการไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และในรอบของการไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีอีก 7 คน ยกเว้นในกรณีที่ว่าถ้าในรอบของการลงคะแนนเสียงไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีแล้วเสียงส่วนใหญ่ออกมาว่าไม่ไว้วางใจก็จะเท่ากับเป็นการไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีอีก 7 คนไปโดยปริยาย
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวด้วยว่า จากการอภิปรายเมื่อวานนี้เห็นได้ชัดว่านายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ไม่สามารถชี้แจงกรณีเขาพระวิหารได้ และมองว่าการที่คณะรัฐมนตรีมีมติเปลี่ยนแปลงจากแผนที่เป็นแผนผังก็ไม่ได้มีส่วนช่วยในเรื่องการแก้ปัญหาพื้นที่ดังกล่าวได้ เพราะถือว่าทั้งรัฐบาลไทยและกัมพูชาต่างได้ลงนามและแถลงการณ์ร่วมกันไปแล้ว ซึ่งคงไม่สามารถจะแก้ไขอะไรได้
"ผมคิดว่านายกฯ ไม่สามารถชี้แจงได้เลย อย่างกรณีรัฐมนตรี(นพดล ปัทมะ) ยังมีบางเรื่องที่จงใจชี้แจงให้เกิดความคลาดเคลื่อน...ผมไม่เห็นว่าการทบทวนมติ ครม.จะไปแก้ไขอะไรได้ เพราะได้มีการแถลงการณ์ร่วมและลงนามไปแล้ว" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--