คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) สรุปผลการตรวจสอบคดีทุจริตของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในช่วงเวลาที่ทำงานผ่านมา 1 ปี 9 เดือน สามารถสรุปคดีเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลไปแล้ว 5 คดี ได้แก่ คดีการจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาฯ, คดีหวยบนดิน, คดีเลี่ยงภาษีจากการซื้อขายหุ้น SHIN, คดีการจัดซื้อกล้ายางพารา และคดีการปล่อยกู้ของ EXIM BANK
โดยคดีที่ คตส.ได้ส่งเรื่องไปให้อัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาส่งฟ้องศาล มี 7 คดี ได้แก่ คดีจัดซื้อเครื่อง CTX, คดีการร่ำรวยผิดปกติและได้ทรัพย์สินโดยไม่สมควร, คดีท่อร้อยสายไฟใต้ดิน, คดีปล่อยสินเชื่อโดยมิชอบของธนาคารกรุงไทย, คดีที่เจ้าหน้าที่สรรพากรตอบข้อหารือภาษีหุ้น SHIN โดยมิชอบ, คดีการแปลงค่าสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต และคดีติดสินบนโครงการบ้านเอื้ออาทร
ส่วนคดีที่ คตส.ต้องส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) รับไปดำเนินการต่อ มี 6 คดี ได้แก่ คดีการจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิงของกทม., คดีแอร์พอร์ตลิงค์, คดีบ้านเอื้ออาทร(ร่มเกล้า บางพลี รังสิต คลอง 9 กบินทร์บุรี อรัญประเทศ), คดีเซ็นทรัลแล็บ, การซื้อทีมฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้, กรณีปกปิดบัญชีทรัพย์สินหุ้นธนชาติประกันภัย
นอกจากนี้ ยังมีคดีที่อยู่ในระหว่างการส่งให้กรมสรรพากรเพื่อประเมินภาษี มี 4 เรื่อง ได้แก่ กรณีนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ที่รับหุ้นจากคุณหญิงพจมาน ชินวัตร มีภาระภาษี 546 ล้านบาทเศษ, กรณีนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร ซื้อหุ้น บ.แอมเพิลริช อินเวสเม้นท์(ARI) 1 บาท แต่ขาย 49.25 บาท มีภาระภาษี 11,808 ล้านบาทเศษ, บริษัท ARI ขายหุ้น 1 บาท ราคาตลาด 49.25 บาท มีภาระภาษี 20,923 ล้านบาทเศษ และกรณี บมจ.ชินแซทเทลไลท์ รับเงินค่าสินไหมทดแทน มีภาระภาษีจากรายรับ 1,082 ล้านบาทเศษ
--อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/กษมาพร/ธนวัฏ โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--