นายอุดม เฟื่องฟุ้ง คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.)ยอมรับว่า เป็นห่วงการเมืองจะเข้าแทรกแซงกระบวนการทำงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ที่จะต้องรับสานต่อคดีจาก คตส. ดังนั้นจึงขอฝากให้ ส.ว.ให้ช่วยดูแลข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับอำนาจการตรวจสอบขององค์กรอิสระ เพื่อจะทำให้กระบวนการยุติธรรมมีอิสระในการดำเนินการอย่างแท้จริง
"เรามั่นใจในกระบวนการตรวจสอบของ ป.ป.ช. แต่ไม่รู้ว่าจะได้รับการส่งเสริมจากอำนาจรัฐให้ทำหน้าที่อย่างถูกต้องได้หรือไม่ อยากให้ ส.ว.ช่วยดูแลกฎหมายที่ใช้ในกระบวนการยุติธรรมให้มีอิสระจริงๆ ตอนนี้เราเป็นนักวิ่งผลัดไม้ 1 พอส่งไปให้ไม้ 2 อาจเกิดสะดุด เราก็ต้องวิ่งไปส่งให้ศาลอีก จึงอยากถามว่า ส.ว.จะแก้กฎหมายนี้อย่างไร"นายอุดม กล่าวในการแถลงผลงาน คตส.ที่สิ้นสุดวันนี้เป็นวันสุดท้าย
นายแก้วสรร อติโพธิ กรรมการ คตส. กล่าวว่า คดีความที่ คตส.ดำเนินการในช่วงระหว่าง 1 ปี 9 เดือน แล้วเสร็จไป 11 คดี ศาลรับเรื่องแล้ว 5 คดี และรออัยการสูงสุดส่งฟ้องศาลอีก 6 คดี เชื่อมั่นว่าคดีจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิง, แอร์พอร์ตลิงค์, เซ็นทรัลแล็ป คงจะได้เดินหน้าส่งให้อัยการได้ต่อไป พร้อมทั้งยืนยันว่าทุกคดีความที่อยู่ในการตรวจสอบของ คตส.ได้ดำเนินการด้วยความยุติธรรม และมั่นใจในพยานหลักฐาน ซึ่งนักการเมืองย่อมมีสิทธิที่จะถูกตรวจสอบได้ และมีสิทธิที่จะติดคุกได้
นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ คตส. และในฐานะโฆษก ป.ป.ช. กล่าวว่า ป.ป.ช.จะเดินหน้าสานต่อภาระกิจของ คตส. พร้อมยืนยันว่าในคดีแอร์พอร์ตลิงค์ กับคดีรถและเรือดับเพลิง ซึ่งหากเข้าสู่กระบวนการของ ป.ป.ช.แล้วจะไม่มีการย้อนกลับไปนับหนึ่งใหม่ และอาจจะเชิญกรรมการ คตส.เข้ามาเป็นส่วนร่วมในอนุกรรมการไต่สวนของ ป.ป.ช.ต่อไป
นายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส. กล่าวว่า แม้ คตส.จะถูกฟ้องร้องจากการทำคดีทุจริตต่างๆ แต่ก็ยินดีที่จะต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม พร้อมท้าให้ผู้ที่ยื่นเรื่องตรวจสอบการทำงานของ คตส.ให้มาต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมด้วย โดยขณะนี้ คตส.ถูกฟ้องกลับทางคดีอาญารวม 10 คดี คดีแพ่ง 7 คดี และอยู่ระหว่างการรอแจ้งความดำเนินคดีอีก 3 คดี
ด้านนายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส. กล่าวว่า ตลอดการปฏิบัติหน้าที่ที่ผ่านมาไม่เคยได้รับการร้องขอจากผู้ที่มีอำนาจให้ช่วยเหลือเรื่องคดีความ หรือถูกข่มขู่จากการปฏิบัติหน้าที่ มีเพียงแต่การโทรศัพท์มาต่อว่า ทั้งนี้ ทุกคดีที่ คตส.ตรวจสอบนั้นยืนยันมีความรอบคอบและรัดกุม เพราะหากเกิดช่องโหว่อาจจะทำให้คดีหลุด หรือต้องย้อนกลับมาเริ่มต้นกระบวนการตรวจสอบใหม่
วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ คตส.เสร็จสิ้นภาระกิจในการตรวจสอบคดีทุจริตต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยได้จัดการเสวนาจากกรรมการ คตส. ภายใต้งาน "เงินแผ่นดินนั้น คือเงินของประชาชนทั้งชาติ" ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่ามกลางประชาชนที่สนใจเข้าร่วมรับฟังอย่างคับคั่ง
นอกจากนี้ ยังได้แจกจ่ายหนังสือ "ปัจฉิมบท คตส. พันธกิจการตรวจสอบแทนประชาชน" ความหนาประมาณ 220 หน้า ให้แก่ประชาชนที่สนใจเข้ามารับฟังในงาน โดยเนื้อหาเป็นการเล่าถึงกระบวนการทำงานของ คตส. และรายงานผลการปฏิบัติงานในรอบ 1 ปี 9 เดือนให้ประชาชนได้รับทราบ พร้อมฝากแง่คิดมุมมองต่องานที่ ป.ป.ช.ต้องสานต่อ
หลังจากเสร็จสิ้นการเสวนา คตส.ได้ลงนามในการส่งมอบงานที่ต้องตรวจสอบต่อให้แก่ ป.ป.ช. ขณะที่ประชาชนที่อยู่ในหอประชุมได้มอบช่อดอกไม้แก่กรรมการ คตส.และปรบมือให้กำลังใจเป็นเวลานานเกือบ 8 นาที ท่ามกลางความตื้นตันของ กรรมการคตส.ทุกคน
--อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--