นายกรัฐมนตรีเหวิน เจีย เป่า ของจีนยอมรับว่า จีนกำลังเผชิญกับเรื่องท้าทายในการรับประกันว่า จีนจะมีธัญพืชเพียงพอป้อนความต้องการของประชากรในประเทศในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า เนื่องจากปัญหาการขยายตัวของเมืองและสภาพการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศเป็นหลัก
ปัจจุบัน อุปทานและอุปสงค์ธัญพืชของจีนนั้นอยู่ในระดับที่สมดุล แต่คาดว่าในระยะยาวสถานการณ์จะย่ำแย่ลง การพัฒนาในภาคอุตสาหกรรม การขยายตัวของเมือง และประชากรที่มีจำนวนมากขึ้น ทำให้ความต้องการธัญพืชสูงขึ้น ในขณะที่พื้นที่เพาะปลูกที่ลดลง การขาดแคลนนน้ำ และสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงทำให้การผลิตธัญพืชมีปัญหามากขึ้น แต่ก็เชื่อว่า อุปทานและอุปสงค์ในระยะยาวจะสมดุลแต่คงอยู่ในสภาพที่ตึงตัว
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ที่ประชุมครม.จีนได้อนุมัติแผนการสร้างความมั่นคงในระยะกลางและระยะยาวด้านธัญพืช โดยมีเป้าหมายที่จะรักษาระดับผลผลิตธัญพืชรายปีให้อยู่เหนือระดับ 500 ล้านตันภายในปี 2553 และเพิ่มการผลิตธัญพืชให้ได้มากกว่า 540 ล้นตันภายในปี 2563
แถลงการณ์ของนายกฯจีนยังระบุด้วยว่า จีนจะพึ่งพาตนเองในการผลิตอาหารป้อนประชากรกว่า 1.3 พันล้านคน และจะมีอุปทานธัญพืชแบบที่พึ่งพาตนเองได้ในสัดส่วน 95% โดยการดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว จีนจำเป็นต้องคุ้มครองพื้นที่ที่รัฐบาลกำหนดว่าเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญสำหรับการผลิตอาหารป้อนประชากรขนาด 120 ล้านเฮคเตอร์ ซึ่งจีนมีพื้นที่ใกล้จะถึงระดับเป้าหมายดังกล่าวแล้ว หลังจากที่พื้นที่เพาะปลูกถูกแปรสภาพไปเป็นเขตอุตสาหกรรมหรือโครงการที่อยู่อาศัย
นอกจากนี้ จีนยังจะเพิ่มเงินอุดหนุนให้กับเกษตรกร และปรับปรุงระบบการสำรองธัญพืช
ธนาคารโลกคาดว่า ราคาอาหารทั่วโลกอาจจะสูงขึ้นเกือบ 2 เท่าภายใน 3 ปี โดยผู้เชี่ยวชาญโทษว่ามาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ราคาน้ำมันที่ดีดตัวและการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพเพิ่มขึ้น
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--