"นพดล"แจ้งยกเลิกแถลงข่าวบ่ายนี้ ปูดสมัยรัฐบาลสุรยุทธ์ตกลงหนุนกัมพูชา

          นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ แจ้งยกเลิกการแถลงข่าวถึงท่าทีที่ชัดเจนกรณีรัฐบาลกัมพูชาขอขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกที่กำหนดไว้ในช่วงบ่ายวันนี้ โดยระบุว่าไม่มีประเด็นอะไรเพิ่มเติมจากที่ได้บอกกับผู้สื่อข่าวไปแล้วว่าจะเดินทางไปขอให้คณะกรรมการมรดกโลกเลื่อนการพิจารณาขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก เพื่อให้รัฐบาลไทยและกัมพูชามีโอกาสเจรจากันใหม่ เพราะไทยต้องการนำพื้นที่อื่น ๆ ขึ้นทะเบียนร่วมด้วย
          ส่วนแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาที่สนับสนุนการขึ้นทะเบียบเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ซึ่งได้มีการเจรจากันที่กรุงปารีส ไม่เข้าข่ายรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 เพราะไม่มีเจตนาที่จะสร้างนิติสัมพันธ์ จึงไม่ถือว่าเป็นหนังสือสัญญา และแถลงการณ์ดังกล่าวก็ไม่กระทบต่อดินแดนหรือเขตแดน
          "ไทยไม่ได้เสีย และกัมพูชาก็ไม่ได้ จึงไม่ถือว่าเข้าข่ายองค์ประกอบมาตรา 190 ที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ว่าต้องขออนุมัติต่อรัฐสภา"นายนพดล กล่าวถายหลังการชี้แจงต่อคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
          รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า สิ่งที่เป็นห่วงคือ ก่อนหน้านี้ระหว่างวันที่ 23 มิ.ย.-2 ก.ค.50 พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นได้เดินทางไปร่วมประชุมคณะกรรมการการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ อนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ ของคณะกรรมการมรดกโลก สมัยประชุมที่ 31 เมืองไครส์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ 
          ในการประชุมครั้งดังกล่าว มีการลงนามในมติคณะกรรมการว่าด้วยรัฐภาคี ซึ่งมติตอนหนึ่งระบุเนื้อหาว่า คณะกรรมการมรดกโลกรับทราบคำแถลงของประธานคณะกรรมการมรดกโลก ซึ่งคณะผู้แทนกัมพูชาและไทยได้เห็นพ้องด้วย
          "รัฐภาคีกัมพูชาและรัฐภาคีไทย เห็นพ้องอย่างเต็มที่ว่าปราสาทพระวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ มีคุณค่าสากลที่โดดเด่น และจะต้องได้รับการขึ้นทะเทียบเป็นมรดกโลกโดยเร็วที่สุด ดังนั้น กัมพูขาและไทยตกลงกันว่ากัมพูชาจะเสนอขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกอย่างเป็นทางการ ในสมัยประชุมที่ 32 ของคณะกรรมการมรดกโลกในปี 2551 โดยการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากไทย" นายนพดล อ่านส่วนหนึ่งของเอกสารอนุสัญญาฯ ดังกล่าวให้ผู้สื่อข่าวฟัง
          รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวทำให้ไม่มั่นใจว่าแม้จะไปขอถอนการใช้แถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาแล้วจะทำให้กัมพูชาไม่สามารถขึ้นทะเบียบเขาพระวิหารได้ เพราะสิ่งที่ พล.อ.สุรยุทธ์ ได้ดำเนินการไปเป็นการบ่งชี้ว่าไทยพร้อมที่จะสนับสนุนกัมพูชาชึ้นทะเบียนเขาพระวิหารอย่างแข็งขันไว้ก่อนแล้ว
          ด้าน นายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้รับฟังคำชี้แจงของนายนพดลและคณะแล้ว โดยนายนพดลจะมีการยื่นเอกสารประกอบ ซึ่งคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาคำร้องต่อในวันที่ 7 ก.ค.นี้ เวลา 09.30 น.