นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีที่นายสุริยะใส กติศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาเปิดประเด็นเรื่องเตรียมทหารรุ่น 10 เตรียมออกมาเคลื่อนไหว โดยรัฐบาลจะปฏิวัติตัวเองเพื่อช่วยตัดตอนคดีทุจริตต่างๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวนั้นเป็นเพียงสิทธิในการแสดงความคิดเห็นตามระบอบประชาธิปไตยของผู้ที่ขึ้นปราศรัยบนเวทีฯ ซึ่งไม่ได้เป็นความเห็นที่เป็นมติของ 5 แกนนำพันธมิตรฯ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมการแสดงความเห็น เนื่องจากเป็นสิทธิเสรีภาพภายใต้รัฐธรรมนูญ
"มันรับผิดชอบไม่ไหว คนเยอะ แต่ละคนไม่ได้ไปสั่งว่าจะพูดอะไร การพูดโดยหลักทั่วไปแล้วใครพูดก็ต้องรับผิดชอบ แต่การแสดงความคิดเห็นนั้นไม่ห้าม เพราะเป็นเสรี ข้อมูลบางเรื่องที่เขาไปรับมา เขาก็มีสิทธิแสดงความคิดเห็นเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา แต่การวิเคราะห์ในเชิงปรัชญาการเมือง เป็นวิธีการนำเสนอ แต่บางส่วนอาจจะได้ข้อมูลอะไรผมไม่รู้ แต่ไม่ใช่เป็นความเห็นร่วมของ 5 แกนนำ" นายสมศักดิ์ กล่าวในรายการวิทยุเช้านี้
ล่าสุด พล.อ.บุญสร้าง เนีมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ออกมาปฏิเสธว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะทหารไม่ชอบการทำปฏิวัติ
ส่วนกรณีแนวคิดการเมืองใหม่นั้น นายสมศักดิ์ เห็นว่า เป็นเพียงการจุดประเด็นเพื่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นในสังคมว่าทิศทางการเมืองต่อไปควรจะเป็นอย่างไร แต่ยังไม่ใช่แนวทางที่สรุปออกมาเป็นหลักการชัดเจน
"เป็นการยิงประเด็นขึ้นไป แต่ไม่ใช่หลักการที่ชัดเจน เป็นการพูดให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ว่าจริงๆ แล้วควรจะเป็นอย่างไร ที่เสนอไปถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ถูกต้องจะทำอย่างไร เรียกว่ายิงลูกขึ้นไปให้ดู แต่ยังไม่ใช่พิมพ์เขียวแน่นอน ให้คนไปคิดมา" นายสมศักดิ์ กล่าว
สำหรับการตัดสินใจว่าปรับเปลี่ยนรูปแบบหรือสถานที่การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ นั้น จะขอรอฟังคำสั่งของศาลแพ่งในวันนี้ก่อน ซึ่งแกนนำทั้งหมดจะเดินทางไปรับฟังคำสั่งของศาลวันนี้ และหาก
"ศาลไม่ได้บอกให้เปิดถนน 24 ชั่วโมง แต่บอกเรื่องใช้เสียงเวลา 07.30-16.30 น. และเรื่องให้เปิดทางให้สะดวก เดี๋ยวค่อยคุยกันให้ชัดเจน เราก็พยายามจะทำความเข้าใจ แต่ตำรวจก็ไปตีความอีกแบบ ยืนยันว่าทุกคนเคารพศาล" นายสมศักดิ์ กล่าว
วันนี้ ศาลแพ่งจะออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนตำรวจ 4 นายที่เกี่ยวข้องกับการดูแลการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ตามคำร้องของทนายความคณะผู้ปกครอง ครู และนักเรียนโรงเรียนราชวินิตมัธยมที่ขอให้ศาลตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี เพื่อให้บังคับคดีพันธมิตรฯ ให้ปฏิบัติตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งฝ่ายโจทก์เห็นว่าพันธมิตรฯ ยังไม่ได้ทำตามคำสั่งศาลอย่างครบถ้วน โดยเฉพาะกรณีที่ยังไม่ยอมเปิดถนนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้รถสาธารณะสัญจรผ่านไปมาได้สะดวก ขณะเดียวกันกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ได้ยื่นอุทธรณ์คำร้องคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าว
ทั้งนี้หากคำสั่งของศาลแพ่งที่จะออกมาวันนี้ มีข้อจำกัดที่ส่งผลกระทบกับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ว่าจะเป็นข้อจำกัดในแง่เวลา, สถานที่ รวมถึงการใช้เสียงนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า แกนนำทั้งหมดจะได้หารือกันอีกครั้ง รวมถึงถามความเห็นจากประชาชนที่ร่วมชุมนุมด้วยว่าจะมีแนวทางดำเนินการกับเรื่องนี้อย่างไรต่อไป
"5 คน(แกนนำพันธมิตรฯ) ต้องคุยกันและฟังเสียงประชาชนที่มาร่วมชุมนุม...แต่ยืนยันไล่รัฐบาลจนถึงที่สุด" นายสมศักดิ์ ระบุ
ล่าสุด ขณะนี้กลุ่มพันธมิตรฯ ได้เดินทางมาชุมนุมตามยุทธศาสตร์ดาวกระจายอยู่ที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เพราะเห็นว่าตำรวจเลือกปฏิบัติ เนื่องจากคดีความที่เกี่ยวข้องกับพันธมิตรฯ นั้น ตำรวจดำเนินการด้วยความรวดเร็ว แต่คดีที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลหรือผู้สนับสนุนรัฐบาลกลับทำอย่างล่าช้า
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ธนวัฏ โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--