ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งพิพากษาเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งนายยงยุทธ ติยะไพรัช ส.ส.ระบบสัดส่วน กลุ่มที่ 1 รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน(พปช.)เป็นเวลา 5 ปี ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ได้ยื่นคำร้องมา ฐานกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2550 เนื่องจากพยานและหลักฐานเชื่อได้ว่านายยงยุทธให้สินบนกับกลุ่มกำนันให้ช่วยเหลือการเลือกตั้งกับพรรค พปช.และผู้สมัครของพรรคตามที่ถูกกล่าวหาจริง ไม่ใช่เป็นการจัดฉาก
พร้อมทั้งสั่งให้จัดการเลือกตั้งใหม่ในเขต 3 จังหวัดเชียงใหม่ แทนน.ส.ละออง ติยะไพรัช น้องสาวนายยงยุทธที่ถูก กกต.ให้มใบเหลืองไปก่อนหน้านี้
สำหรับคำพิพากษาของศาลฯ ระบุว่า คำต่อสู้คดีของผู้ถูกกล่าวหาที่ว่า กกต.ไม่ให้ถอนคำร้องของนายวิจิตร ยอดสุวรรณ ผู้สมัครเขต 3 พรรคชาติไทย จ.เชียงรายที่ยื่นคำร้องคัดค้านผลการเลือกตั้งของนายยงยุทธนั้น ศาลมองว่ากฎหมายให้อำนาจ กกต.จังหวัด และเลขาธิการ กกต.มีสิทธิดำเนินการได้ ไม่ได้จำกัดสิทธิ และการกระทำดังกล่าวไม่ได้ฝ่าฝืน เพราะการกระทำผิดดังกล่าวไม่ได้ส่งผลเฉพาะบุคคลหนึ่งบุคคลใด แต่ส่งผลกระทบต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย
ส่วนกระบวนการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัยชี้ขาดเป็นไปโดยถูกต้องตามระเบียบของกกต.โดยให้โอกาสนายยงยุทธ และน.ส.ละออง เข้าชี้แจงข้อกล่าวหาและเสนอหลักฐานเต็มที่แล้ว ไม่ได้เร่งรีบเกินไป มีการสอบพยานฝ่ายนายยงยุทธไปทั้งสิ้น 22 ปาก จึงเห็นว่าขั้นตอนต่าง ๆ เป็นไปโดยชอบแล้ว
นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.กล่าวก่อนหน้านี้ว่า หากศาลตัดสิทธิเลือกตั้งนายยงยุทธ ประธาน กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ก็จะต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวนส่งต่ออัยการสูงสุด เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเรื่องยุบพรรคการเมืองต่อไป แต่หาก อสส.เห็นว่ามีหลักฐานไม่เพียงพอก็จะต้องกลับมาตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่าง กกต.และอัยการสูงสุด ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวมีลักษณะเหมือนกับขั้นตอนการพิจารณากรณียุบพรรคชาติไทยและพรรคมัชฌิมาธิปไตยก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม หากนายทะเบียนพรรคการเมือง เห็นว่ามีหลักฐานไม่เพียงพอก็ถือว่าจบ
--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/ศศิธร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--