(เพิ่มเติม) โฆษก พปช.เผย"สมัคร"นัด ส.ส.พปช.หารือเย็นพรุ่งนี้ ย้ำยังไม่คิดยุบสภา

          ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน(พปช.) กล่าวว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคฯ ได้นัดประชุมลูกพรรคเป็นนัดพิเศษในช่วงเย็นวันพรุ่งนี้ เพื่อชี้แจงแนวทางการทำงานของรัฐบาลในช่วงต่อไป โดยไม่มีแนวคิดจะยุบสภาแม้ว่าจะมีการเสนอขึ้นมาในที่ประชุมวันนี้ แต่นายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้หวั่นวิตกต่อสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้
          "ท่านไม่ได้เกิดความหวั่นวิตก ไม่ถอด ไม่ถอย มีเหตุผลอธิบายทุกเรื่อง และในขณะนี้ด้านการเมืองยังเดินหน้าต่อไปได้ในสภาพปกติ ไม่ต้องหวั่นวิตกเรื่องยุบสภา" โฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมกรรมการบริหารพรรควันนี้          
          นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรียังระบุว่าจะชี้แจงข้อมูลกับประชาชนโดยตรง ผ่านรายการ"สนทนาประสาสมัคร"วันอาทิตย์ ส่วนการดำเนินการแก้ข้อกล่าวหาต่างๆ ทางการเมืองนั้น พรรคได้มอบหมายให้นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าทีมผู้ดูแลเรื่องดังกล่าว
          พร้อมกันนี้ โฆษกพรรคพปช. ยังระบุว่า พรรคยังไม่ได้มีแนวคิดที่ผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเร่งด่วนภายหลังศาลฎีกาฯมีคำตัดสินกรณีใบแดงนายยงยุทธ ติยะไพรัช ซึ่งอาจนำไปสู่คดียุบพรรค และพรรคพลังประชาชนยังเชื่อมั่นว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะเข้าใจถึงแนวทางการทำงานของพรรคและจะเดินหน้าทำงานร่วมกันต่อไป
          ด้านพ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว รองหัวหน้าพรรคพปช. ยอมรับว่า นายกรัฐมนตรีได้รับข้อเสนอให้ยุบสภาไว้พิจารณา ซึ่งเชื่อมั่นว่านายกรัฐมนตรีจะนำพิจารณาในช่วงที่เหมาะสม เพราะโดยส่วนตัวมองว่าสุดท้ายต้องมีการยุบสภาอย่างแน่นอน    
          "ที่ผมกล้าพูด เพราะผมเคยเป็นอดีตหัวหน้าพรรค ผมกล้าพูดความจริง ซึ่งคนอื่นอาจจะคิดก็ได้ ผมเชื่อว่าสุดท้ายต้องยุบสภาแน่นอน แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นกับนายกฯ สมัครจะพิจารณาช่วงเวลาที่เ่หมาะสม" พ.ต.ท.กานต์ กล่าว  
          นายสุทิน คลังแสง กรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า กรณีที่พรรคฝ่ายค้านเตรียมยื่นถอดถอนรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลนั้น ที่ประชุมพรรควิเคราะห์ว่าตามข้อกฎหมายไม่สามารถถอดถอนคณะรัฐมนตรีทั้งคณะได้ อาจจะดำเนินการเพียงรายบุคคลและคงจะยื่นถอดถอนนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ อย่างแน่นอน 
          ส่วนกระแสข่าวนายนพดลอาจลาออกหลังเดินทางกลับจากต่างประเทศ ที่ประชุมยังเชื่อว่าเป็นเพียงกระแสข่าวและไม่ได้พูดถึงตามที่มีการประเมิณว่าหากนายนพดล ลาออกจะช่วยลดกระแสกดดันทางสังคมได้ 
          สำหรับกรณีที่จะเสนอให้ดำเนินคดีทางอาญาต่อรัฐมนตรีบางบุคคลนั้น ต้องดูว่าส.ว.ที่จะดำเนินการอยู่ในฐานะเจ้าทุกข์หรือไม่ หรือหากมีสิทธิ์แจ้งความดำเนินคดีรัฐบาลก็ไม่วิตก เพราะว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ทำโดยเจตนา แต่ได้ปรึกษาหารือกับหน่วยงานอื่นแล้ว อาทิ กรมสนธิสัญญา หน่วยงานความมั่นคง  
          ในระหว่างการประชุมพรรค นายสมัครยังพูดถึงกรณีสินบนโครงการอุโมงค์ระบายน้ำในสมัยที่ดำรงตำแหน่งผู้ว่ากทม.ว่า ไม่ได้ให้น้ำหนักเท่าไหร่ โดยมีความพยายามเร่งรัด มีการไปขุดคุ้ยเพื่อนำมาสร้างกระแสทางการเมืองเพื่อให้เกิดความอึมครึมมากขึ้น โดยตั้งข้อสังเกตเพียงเล็กน้อยว่ากระบวนการที่เกิดขึ้นเป็นการเชื่อมโยงความเคลื่อนไหวเป็นกระบวนการ ลดความเชื่อถือของรัฐบาล พยายามสร้างสถานการณ์ให้ปั่นป่วนในที่สุดนำไปสู่การล้มรัฐบาล และนำไปสู่การถอนรากถอนโคนพ.ต.ท.ทักษิณ   
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกระแสข่าวการจดทะเบียนพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคสำรองหากมีการยุบพรรคพลังประชาชนนั้น ปรากฎว่าพรรคเพื่อไทย(พท.)ได้ยื่นจดทะเบียนเมื่อวันที่ 20 ก.ย.50 มีนายบัณจงศักดิ์ วงศ์รัตนวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค นายโอฬาร กิจเลิศไพโรจน์ เป็นเลขาธิการพรรค มีกรรมการบริหารพรรค 17 คน สำนักงานใหญ่เคยเป็นที่ทำการพรรคไทยรักไทยขณะที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย