นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังนายปองพล อดิเรกสาร ประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ชี้แจงกรณีกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกว่า ได้รับฟังข้อมูลแล้ว ยังได้แลกเปลี่ยนถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตว่า มติของกรรมการมรดกโลก จะมีผลอย่างไรต่อไทย
โดยพบว่า กัมพูชาต้องเร่งทำหลายเรื่อง อาทิ แผนที่ตัวปราสาท การกำหนดบริเวณเขตอนุรักษ์ และเขตการจัดการต่างๆ จึงเป็นห่วงว่า หากให้ทางกัมพูชาจัดทำแล้ว ขอบเขตที่แท้จริงจะเป็นอย่างไร เพราะเท่าที่ทราบ ตัวแผนผังที่ประชุมในคณะกรรมการมรดกโลก ประเทศไทยไม่ได้รับมา
พร้อมกันนี้ เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งพูดคุยกับกัมพูชาในเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในอนาคต และขอเร่งรัฐบาลให้เร่งชี้แจงนานาชาติ กรณีที่มีการคัดค้านแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ที่สนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกด้วย เพื่อที่จะไม่เอาเรื่องดังกล่าวมาเป็นข้ออ้างในอนาคต
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าสิ่งที่ห่วงคือ ตามมติของคณะกรรมการมรดกโลก กัมพูชาจะเป็นผู้จัดทำแผนที่ ซึ่งไม่ได้ระบุว่าไทยจะมีส่วนร่วมอย่างไร และการทำแผนที่ครั้งนี้ มีการจัดทำเขตบริหารจัดการ อ้างอิงถึงแผนผังที่ได้มีการนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก แต่ปรากฏว่าแผนผังดังกล่าว แม้แต่คณะกรรมการมรดกโลกของฝ่ายไทยก็ยังไม่มี เพียงได้เห็นผ่านในช่วงเสนอต่อที่ประชุมเท่านั้น ซึ่งแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหาร จะมีเฉพาะตัวปราสาทคงเป็นไปไม่ได้ เพราะการบริหารจัดการสถานที่ให้เป็นมรดกโลก ต้องมีแผนการบริหารจัดการครอบคลุมหลายประเด็นมาก
"การบริหารจัดการ ไม่ใช่เฉพาะตัวปราสาทแน่นอน แต่จะครอบคลุมในพื้นที่ดินแดนไทยมากน้อยแค่ไหน วันนี้ก็ไม่มีใครทราบ ดังนั้น ภารกิจเร่งด่วนของรัฐบาล ต้องดำเนินการเจรจากับกัมพูชา ให้มีกติกาการทำงานที่ไม่กระทบกับสิทธิของเรา และไม่กระทบกับความสัมพันธ์ และรัฐบาลต้องเร่งทำให้ประชาคมโลกรับทราบว่า แถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาฯ ไม่เป็นที่ยอมรับ เนื่องจากขัดรัฐธรรมนูญ เพราะถ้าไทยยอมรับแถลงการณ์ร่วมดังกล่าว จะส่งผลกระทบใหญ่หลวง และอาจรวมถึงการยอมรับแผนที่ และเขตแดนต่างๆ ที่กัมพูชาทำด้วย" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มติคณะกรรมการมรดกโลกยังเห็นได้ชัดว่า มีความผิดปกติหลายเรื่อง เช่น การยกเว้นหลักเกณฑ์เส้นตาย การเสนอเอกสารต่างๆ ของกัมพูชา และรายงานทางวิชาการขององค์กรอิสระที่ระบุว่า ไม่แนะนำให้ทำ หากกัมพูชาจะขึ้นทะเบียนตัวปราสาท เพราะคุณค่าของตัวปราสาทจะต้องพิจารณาไปพร้อมบริเวณรอบๆ ซึ่งเฉพาะใน 2 ประเด็นนี้ เห็นได้ชัดว่ามติที่ออกมามีความผิดปกติ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายปองพลได้แสดงจุดยืนด้วยว่า คณะกรรมการมรดกโลกไทย จะไม่ลดละความพยายาม ในการผลักดันบริเวณโดยรอบปราสาทพระวิหาร ให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกร่วมให้ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์สนับสนุน ส่วนเรื่องไทยไม่ต้องเสียดินแดน นั้น หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า นายปองพลไม่ได้พูดเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่ทหาร หรือกระทรวงการต่างประเทศ ต้องเป็นผู้ให้คำตอบ เพราะนายปองพลมีหน้าที่เพียงดูความเหมาะสม และความสมบูรณ์ของพื้นที่ในการเป็นมรดกโลก
สำหรับการดำเนินการถอดถอนรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านต้องทำการตรวจสอบต่อไป และยิ่งดูมติครั้งนี้ ยิ่งทำให้มองเห็นว่า ถ้าปล่อยให้แถลงการณ์ร่วมฯ มีผล ความเสียหายจะเกิดขึ้นมหาศาลจริงๆ
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร โทร.0-2253-5050 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--