เลือกตั้งสหรัฐ 08:โอบามา-แมคเคนมั่นใจฝีมือเบอร์นันเก้ ยันไม่แทรกแซงเฟด

ข่าวต่างประเทศ Thursday July 24, 2008 14:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายจอห์น แมคเคน ผู้แทนพรรครีพับลิกันที่จะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ และบารัค โอบามา คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ต่างมีมุมมองที่ไม่แตกต่างกันมากนักเกี่ยวกับนโยบายด้านภาษี การค้า และสาธารณสุข รวมทั้งความเชื่อมั่นที่มีต่อสถาบันที่มีอิทธิพลมากที่สุดสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐอย่างธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ตัวเก็งทั้ง 2 รายชื่นชมนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด ซึ่งเป็นสมาชิกพรรครีพับลิกัน และยังสนับสนุนการที่เฟดตัดสินใจเข้าช่วยเหลือแบร์ สเติรน์ส์ไม่ให้ล้มละลาย รวมทั้งแผนการสนับสนุนแฟนนี เม และเฟรดดี แมค โดยทีมที่ปรึกษาของแมคเคนและโอบามา กล่าวว่า แม้ว่าสหรัฐจะมีผู้นำคนใหม่ การดำเนินงานของเฟดเรื่องอัตราดอกเบี้ยนั้นคงจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก
อย่างไรก็ดี แมคเคนและโอบามาก็ไม่ได้ออกมาพูดอะไรเพื่อให้นักลงทุนตื่นตระหนกหรือพูดเรื่องการเปลี่ยนแปลงแนวคิดหรือวิธีปฏิบัติในช่วงที่ประเทศกำลังเผชิญวิกฤตสินเชื่อ ประธานาธิบดีสหรัฐคนต่อไปมีแนวโน้มที่จะใช้นโยบายที่มีการใช้เมื่อ 16 ปีที่แล้วในสมัยของประธานาธิบดีบิล คลินตัน และจอร์จ ดับเบิลยู บุช และหลีกเลี่ยงที่จะเข้าไปก้าวก่ายการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแต่งตั้งเจ้าหน้าที่เฟดที่ได้รับการยอมรับในเวทีเศรษฐกิจและการเงิน
เดวิด เอ็ม โจนส์ อดีตนักเศรษฐศาสตร์ประจำเฟด กล่าวว่า คงจะเป็นเรื่องยากสำหรับผู้สมัครชิงตำแหน่งทั้ง 2 คนที่จะคิดเปลี่ยนแปลงอะไรที่ใหญ่เกินตัว
ผู้สมัครทั้ง 2 คนไม่ได้พูดถึงเฟดบ่อยครั้งนักในระหว่างการรณรงค์หาเสียง หรือแม้แต่จะมีโอกาสในการสอบถามประธานธนาคารกลางสหรัฐในการประชุมคณะกรรมการเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมื่อเดือนมี.ค. เบอร์นานเก้ได้รายงานโดยสรุปต่อนายแมคเคนเรื่องแบร์ สเติร์นส์ทางโทรศัพท์ตามที่แมคเคนร้องขอ และพูดคุยกันอยู่เป็นเวลาประมาณ 15 นาที
ดักกลาส ฮอลท์ซ เอกิน ที่ปรึกษาคนสำคัญของแมคเคน กล่าวว่า เรามีความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ในตัวประธานเฟดและเฟด ทางด้านเจสัน เฟอร์แมน ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของนายโอบามา กล่าวว่า นายโอบามาก็มีความเชื่อมั่นในตัวนายเบอร์นานเก้อย่างเปี่ยมล้น
อย่างไรก็ดี การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งนี้จะมีผลกระทบต่อเฟด ไม่ว่าโอบามาหรือแมคเคนได้รับชัยชนะ ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่จะเป็นผู้แต่งตั้งผู้ว่าการเฟด 3 คนทันที เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่ว่างลง นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐคนใหม่ยังจะต้องตัดสินใจว่าจะเสนอชื่อนายเบอร์นานเก้ทำหน้าที่ต่อเป็นสมัยที่ 2 หรือไม่ หลังจากที่วาระการดำรงตำแหน่งสมัยแรกของนายเบอร์นานเก้จะสิ้นสุดลงในเดือนม.ค. 2553 บลูมเบิร์กรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ