รัฐบาลเกาหลีใต้ภายใต้การนำของประธานาธิบดีลี เมียง บัค ของเกาหลีใต้กำลังเผชิญกับจุดวิกฤตเป็นเวลา 4 เดือนแล้วที่ได้เข้ามาบริหารประเทศ ท่ามกลางความไม่พอใจเรื่องการนำเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐ และเหตุประท้วงของกลุ่มผู้ขับรถตามท่าเรือต่างๆซึ่งทำให้การดำเนินธุรกิจเกือบหยุดชะงักลง
"ประชาชนเริ่มหมดความเชื่อถือในตัวผู้นำเกาหลีใต้ที่กำลังเผชิญวิกฤติรอบด้าน" ชอย จิน ประธานของ Institute of Presidential Leadership ในกรุงโซลกล่าว "เขาจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองและคณะทำงานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้"
ทั้งนี้ คะแนนนิยมของนายลีทรุดฮวบลงกว่าครึ่ง นับตั้งแต่เขาเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา หลังกวาดชัยชนะมาได้อย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งเมื่อเดือนธ.ค.2550 เนื่องจากประชาชนไม่พอใจต่อการตัดสินใจรื้อฟื้นข้อตกลงนำเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐที่จุดชนวนให้ชาวเกาหลีใต้เกือบ 80,000 คนก่อเหตุประท้วงในกรุงโซล
นอกจากนั้น ความไม่พอใจยังทวีความรุนแรงมากขึ้นในภาวะที่ราคาเชื้อเพลิงและอาหารปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นปัญหาที่ท้าทายความสามารถในการดำเนินนโยบายกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เขาใช้ในระหว่างหาเสียง
"เหตุประท้วงที่เกิดขึ้นในขณะนี้บานปลายร้ายแรงยิ่งกว่าประเด็นการนำเข้าเนื้อวัวสหรัฐ และทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในตัวประธานาธิบดีลีมากขึ้น" ซอห์น ฮัก ซัง ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยคังฮีกล่าว "เขากำหนดนโยบายให้ชาวเกาหลีใต้ปฏิบัติตามโดยไม่ดูตาม้าตาเรือและไม่สอบถามความคิดเห็นของประชาชน และดูเหมือนว่าเขาจะไม่เคยสำนึกผิดในสิ่งที่ได้กระทำลงไป ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เขาเสียคะแนนนิยมจากประชาชนไปไม่น้อย"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--