(เพิ่มเติม) "ทนง"เมินตำแหน่ง รมต.-ที่ปรึกษาศก.รัฐบาล เหตุการเมืองไม่นิ่ง

          นายทนง พิทยะ อดีต รมว.คลัง กล่าวว่า ไม่สนใจรับตำแหน่งทางการเมืองใด ๆ หรือเป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจให้กับรัฐบาลชุดนี้ เนื่องจากเห็นว่าขณะนี้การเมืองยังไม่นิ่ง นอกจากนั้น โดยส่วนตัวยังสนใจที่จะทำงานในต่างประเทศ เพราะเชื่อว่าจะมีโอกาสได้ใช้ความรู้ความสามารถได้เต็มที่มากกว่า 
          "ปัญหาการเมืองในปัจจุบันนี้ทำให้ผมตัดสินใจไม่ทำงานที่เกี่ยวข้องกับการเมืองทั้งหมด สนใจทำงานยังต่างประเทศมากกว่าโดยส่วนตัวไปทำงานอยู่ต่างประเทศมากว่า 1 ปีแล้ว" นายทนง กล่าว 
          นายทนง เชื่อว่ารัฐมนตรีที่รับเชิญเข้าไปและเป็นมืออาชีพจะอยู่ได้นานคงจะยากขึ้นเรื่อยๆ  เพราะกฎหมายต่าง ๆ เป็นข้อจำกัด ทำให้เมื่อออกจากตำแหน่งแล้วจะไม่สามารถทำงานในหน่วยงานภายใต้สังกัดได้เป็นเวลา 2 ปี และยังมีกฎระเบียบอื่น ๆ ที่ ทำให้นักบริหารมืออาชีพหากต้องการลงเล่นการเมืองต้องลงเล่นเต็มตัว ไม่ใช่แค่รับเชิญเหมือนในอดีต 
          อย่างไรก็ตาม ปัญหาการเมืองนายทนง กล่าวว่า ขณะนี้การเมืองต้องแก้ปัญหาตัวเองให้เสร็จเพราะเศรษฐศาสตร์จะแก้อะไรไม่ได้หากระบบเศรษฐกิจอยู่ภายใต้การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่รุนแรงเช่นนี้  ประเทศไทยมีนักเศรษฐศาสตร์มาก แต่คงต้องรอให้การเมืองสงบก่อนจึงจะสามารถแก้ไขได้จริง
          สำหรับผู้ที่ได้รับแต่งตั้งเข้าไปเป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจชุดใหม่ของรัฐบาลก็ถือว่ามีความเหมาะสม ขอให้เชื่อมั่นในตัวบุคคลที่เข้ามาทำงาน เพราะนายวีรพงษ์ รามางกูร ซึ่งเข้ามาเป็นประธานทีมที่ปรึกษา ก็เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ไม่ควรไปให้ความสำคัญต่อกระแสโจมตีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน
          นายทนง ยังกล่าวว่า การแต่งตั้งนายวีรพงษ์ ถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะเป็นผู้ที่มีความซื่อสัตย์ มีความรู้ความสามารถด้านเศรษฐศาสตร์ และยังเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจในสมัยรัฐบาลพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ แต่ต้องรอดูการทำหน้าที่ซึ่งภาวะต่างๆเปลี่ยนแปลงไปมากจากสมัยรัฐบาลพล.อ.เปรม
          "โชคดีที่ได้ดร.วีรพงษ์ เพราะเป็นคนกลาง ไม่เข้าใครออกใคร มีทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์ มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง มีความถูกต้องค่อนข้างมาก ส่วนการทำงานในภาคเอกชนด้วยจะเป็นอุปสรรคและขัดแย้งในการทำงานหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่า เชื่อใจนายวีรพงษ์มากน้อยเพียงใดมากกว่า หากเชื่อว่าท่านต้องการช่วยประเทศก็ควรจะ ให้เกียรติ" นายทนงกล่าว 
          รัฐบาลที่จะสร้างทีมการเมืองที่มีความเข้มแข็งสามารถทำได้ โดยต้องมีทีมที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็งด้วย เช่น ในสหรัฐทีมที่ปรึกษาเศรฐษกิจมีภาวะสูงมาก เป็นที่ปรึกษาของประธานาธิบดีสหรัฐ จะมีอิทธิพลต่อการตัดสินในของประธานธิบดีของสหรัฐ และนี่คือแนวโน้มการเมืองไทยในอนาคต 
          นายทนง ซึ่งมีผู้คาดหมายว่าอาจจะได้รับแต่งตั้งเข้ามาเป็นรมว.คลัง หากนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ต้องพ้นสภาพการเป็นรัฐมนตรีจากกรณีที่ศาลรับฟัองคดีหวยบนดิน ยังให้ความเห็นถึงภาวะเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ไม่ควรต่ำกว่า 5% เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับภาวะเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นมากจากผลกระทบราคาน้ำมัน ซึ่งการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงที่ผ่านมา 0.25% น่าจะช่วยชะลอการเร่งตัวของเงินเฟ้อไม่ให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องได้