ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐกล่าวสุนทรพจน์ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ในวันนี้ในประเด็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับหลายประเทศในเอเชีย ซึ่งสหรัฐได้พัฒนาความสัมพันธ์ให้คืบหน้าอย่างมั่นคงในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา และให้คำมั่นว่าจะร่วมมือแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชีย
ส่วนหนึ่งของคำกล่าวสุนทรพจน์ของผู้นำสหรัฐชี้ให้เห็นว่า สหรัฐมีเป้าหมายกว้างๆในภูมิภาคเอเชีย 4 ประการ คือ การประคับประคองประเทศพันธมิตร การพัฒนาความสัมพันธ์ใหม่ๆให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคงกับประเทศต่างๆ การใช้โอกาสในการสร้างความรุ่งเรืองและเจริญเติบโต และการเผชิญหน้ากับความท้าทายต่างๆร่วมกัน
ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวว่า ในระหว่างที่ตนเองดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐนั้น สหรัฐได้เสริมสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับประเทศพันธมิตรในเอเชีย ซึ่งรวมถึงญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไทย ความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดที่มีความเชื่อมั่นและมีจุดมุ่งหมาย ถือเป็นหนทางที่ดีที่สุดที่จะยกระดับสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในเอเชีย สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
ผู้นำสหรัฐกล่าวต่อไปว่า สหรัฐได้สร้างสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากขึ้นกับประเทศอื่นๆในภูมิภาคที่มีเสรีภาพ ตลอดจนประเทศใหญ่ๆ เช่น อินโดนีเซีย โดยรวมแล้ว สหรัฐได้พัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศมหาอำนาจของเอเชียไปพร้อมๆกัน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายอาจจะกล่าวว่า เรื่องแบบนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะมีความตึงเครียดเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ระหว่างกลุ่มประเทศเหล่านี้
บุชกล่าวว่า ในระหว่างที่สหรัฐและประเทศพันธมิตรในเอเชียได้พัฒนาให้เกิดความก้าวหน้าในด้านต่างๆนั้น ทั้งสองฝ่ายก็ยังคงเผชิญกับความท้าทาย และกำลังฝ่าฟันสิ่งเหล่านี้ร่วมกัน โดยเฉพาะกรอบการทำงานของกลุ่มประเทศ 6 ฝ่ายที่มีเป้าหมายในการยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือก็กำลังจะส่งผลให้เห็นในระดับหนึ่ง แม้ว่าจะต้องมีการลงมือเดินหน้ามากกว่านี้
"ในช่วงที่ผมอยู่ในตำแหน่ง ไม่มีทางที่ประเทศเหล่านี้จะเข้าถึงเกาหลีเหนือในลักษณะของแนวร่วมที่เป็นปึกแผ่นได้ ดังนั้น อเมริกาจึงร่วมมือกับจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และรัสเซียเพื่อจุดการเจรจา 6 ฝ่ายขึ้นมา" ผู้นำสหรัฐกล่าว
ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า เกาหลีเหนือ ซึ่งเผชิญกับแรงกดดันจากประเทศเพื่อนบ้าน ได้ให้คำมั่นว่าจะยกเลิกโครงการนิวเคลียร์และอาวุธนิวเคลียร์ และเมื่อเร็วๆนี้ก็ได้ส่งมอบรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินการด้านนิวเคลียร์ของประเทศ อย่างไรก็ตาม เกาหลีเหนือจำเป็นต้องให้ความเห็นชอบในการจัดตั้งกลไกที่สมาชิกอีก 5 ฝ่ายสามารถตรวจสอบข้อมูลนิวเคลียร์ และขจัดความกังวลต่างๆที่เกี่ยวกับพฤติกรรมของเกาหลีเหนือ ซึ่งรวมถึงการเสริมสร้างสมรรถนะแร่ยูเรเนียมและการแพร่กระจายนิวเคลียร์
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ที่จะเดินทางเยือนไทยนั้น ประธานาธิบดีสหรัฐได้เดินทางไปยังเกาหลีใต้ และหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจในไทยก็จะเดินทางไปยังกรุงปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนต่อไป
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--