"สดศรี"ยืนยันอนุกก.เสียงไม่แตก มีมติเป็นเอกฉันท์กรณียุบ-ไม่ยุบพรรคพปช.

          นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง ยืนยันคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนคดียุบพรรคพลังประชาชน(พปช.) มีมติเป็นเอกฉันท์ ไม่ได้เสียงแตกตามที่เป็นข่าว แต่ยังอุบไต๋ว่าคณะอนุกรรมการฯ มีมติอย่างไร
          "ไม่ใช่ค่ะ เขาฟันธงมาแล้วแต่บอกไม่ได้ว่าฟันธงเท่าไหร่เพราะยังเป็นความลับอยู่...เป็นเอกฉันท์นะคะ" นางสดศรี กล่าวทางรายการวิทยุเช้านี้
          นายสดศรี กล่าวว่า เรื่องนี้มีแนวทางการพิจารณาคดีเป็นตัวอย่างอยู่แล้ว ได้แก่ กรณีของพรรคชาติไทย(ชท.) และพรรคมัชฌิมาธิปไตย(มฌ.) ซึ่งขึ้นอยู่กับนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองที่จะเสนอความเห็นก่อนแล้วนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม กกต.
          "สมมุติว่าท่านเสนอมาว่าไม่สมควรยุบทุกอย่างจบ กกต.ท่านอื่นไม่มีสิทธิ์ที่จะโต้แย้งได้ แต่ถ้าท่านบอกให้ยุบต้องมีการลงมติ" นางสดศรี กล่าว
          สำหรับความคืบหน้าคดียุบพรรค ชท.และ มฌ.ขณะนี้ได้ส่งสำนวนไปที่อัยการสูงสุดแล้ว แต่ไม่มีกรอบเวลาว่าอัยการสูงสุดจะต้องยื่นฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเมื่อไหร่ เนื่องจากเป็นคดีที่ไม่มีอายุความ
          "เป็นเรื่องที่สื่อจะไปสอบถาม กกต.ถือว่าหมดหน้าที่แล้ว และมีหลายเรื่องที่ กกต.ส่งไปให้อัยการสูงสุดแล้ว หลายเรื่องที่ท่านยังไม่ได้ฟ้อง" นางสดศรี กล่าว
          ส่วนกรณีที่ กกต.ให้ใบแดงกรรมการบริหารพรรคเพื่อแผ่นดิน(พผ.)คนหนึ่งไปแล้วนั้น ขณะนี้ได้ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งเพื่อยืนยันการให้ใบแดงอีกครั้ง และสำหรับคดีของพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ก็กำลังจะตามมา โดยสำนวนคดียังอยู่ในชั้นการพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯ ซึ่งเท่าที่ทราบจะมีการสรุปสำนวนส่งให้ กกต.พิจารณาได้ภายในเดือน ส.ค.นี้
          อย่างไรก็ตาม หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบทุกพรรคการเมืองที่นำคดีขึ้นสู่การพิจารณาจะเกิดปัญหาอย่างไรนั้นเป็นเรื่องที่ต้องย้อนกลับไปถามผู้ที่ยกร่างรัฐธรรมนูญปี 50 แต่ได้ข่าวว่ามีการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ขึ้นมารองรับ
          "ดิฉันเป็นเสียงข้างน้อยมาตลอด ในประเด็นนักวิชาการแล้วคิดว่าจะทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอ ไม่มีพรรคไหนที่จะอยู่ยั่งยืน โอกาสที่จะเกิดสูญญากาศ(ทางการเมือง)เป็นไปได้สูง"นางสดศรี กล่าว