เลือกตั้งสหรัฐ 08: โพลล์ชี้โอบามาได้เปรียบด้านเศรษฐกิจ-แม็คเคนได้เปรียบด้านประสบการณ์

ข่าวต่างประเทศ Wednesday August 20, 2008 13:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บารัค โอบามา ว่าที่ตัวแทนพรรคเดโมแครต และนายจอห์น แม็คเคน ตัวแทนพรรครีพับลิกันที่จะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐต่างรณรงค์หาเสียงกันอย่างเข้มข้น โดยเดโมแครตอาศัยจุดที่ประชาชนวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจและพลังงานมาเรียกคะแนนเสียง ในขณะที่พรรครีพับลิกันก็พึ่งประสบการณ์ของนายแม็คเคนและสามารถขจัดเรื่องสงครามอิรักออกจากความข้องใจของประชาชนได้ หลังจากที่นโยบายทำสงครามเคยเป็นประเด็นที่บั่นทอนคะแนนนิยมของพรรคมาก่อน
โพลล์ของบลูมเบิร์กและลอสแองเจลิส ไทม์สล่าสุดชี้ว่า โอบามา ซึ่งเป็นว่าที่ตัวแทนพรรคผิวสีคนแรกที่อาจจะสามารถคลายปมความเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องเชื้อชาติได้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีบทบาทสำคัญในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.นี้
ในขณะที่พรรคเดโมแครตจะจัดการประชุมเพื่อลงคะแนนเสียงเลือกตัวแทนพรรคในสัปดาห์หน้า โอบามา ซึ่งเป็นวุฒิสมาชิกรัฐอิลลินอยส์ มีคะแนนสนับสนุน 42% สูงกว่าแม็คเคนเพียงแค่นิดเดียว โดยแม็คเคนมีคะแนนสนับสนุน 41% จากการสำรวจผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงที่ได้ไปลงทะเบียนมาแล้ว
ซูซาน พินคัส ผู้อำนวยการการสำรวจความคิดเห็นของลอสแองเจลิส ไทม์ส กล่าวว่า เศรษฐกิจที่ย่ำแย่และต้นทุนด้านพลังงานที่สูงขึ้นเป็นประเด็นสำคัญสำหรับการหาเสียงมานาน ผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงเองก็โทษว่าพรรครีพับลิกันและประธานาธิบดีบุชเป็นต้นเหตุของปัญหาเหล่านี้ อย่างไรก็ดี แม็คเคนก็ยังได้เปรียบโอบามาในแง่ของประสบการณ์และความสามารถในการรับมือกับวิกฤตระดับประเทศ
พินคัสกล่าวต่อไปว่า ในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศย่ำแย่ และประชาชนไม่เห็นด้วยกับสงครามอิรัก นายโอบามาจึงน่าจะมีคะแนนนำต่อไปอีก
จุดแข็งของนายโอบามาก็คือ สมาชิกพรรคเดโมแครตจำนวนมากกล่าวว่า พวกเขามีความหวังในตัวนายโอบามามากกว่าตัวแทนของรีพับลิกัน
จากการสำรวจก่อนหน้านี้ ประเด็นเรื่องเศรษฐกิจและอิรักยังคงเป็นประเด็นที่สำคัญ เห็นได้จากผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียง 4 ใน 10 เลือกให้ความสำคัญสูงสุดกับประเด็นทางเศรษฐกิจ โดยผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียง 45% กล่าวว่า โอบามามีแนวคิดด้านการเศรษฐกิจดีกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียง 28% ที่เลือกนายแม็คเคน ขณะที่อีก 1 ใน 3 เลือกให้ประเด็นเรื่องการทำสงครามอิรักเป็นประเด็นที่มีความสำคัญมากที่สุด ขณะที่ประเด็นเรื่องราคาน้ำมันและการดูแลสุขภาพเป็นประเด็นที่ประชาชนให้ความสำคัญในลำดับรองลงมา

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ