สหรัฐและสหภาพยุโรป (EU) ได้ประณามการรับรองความเป็นเอกราชของแควันเซาท์ออสเซเทียและแคว้นอับคาเซียโดยรัสเซีย ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวก่อให้เกิดควาตึงเครียดมากยิ่งขึ้น และยังทำให้ค่าเงินรูเบิ้ลและตลาดหุ้นรัสเซียร่วงลง
บลูมเบิร์กรายงานว่า ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐได้ผลักดันรัสเซียให้พิจารณาถึงการตัดสินใจที่ไร้ซึ่งความรับผิดชอบอีกครั้ง เนื่องจากการตัดสินใจรับรองเอกราชดังกล่าวไม่ได้สอดคล้องกับมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่มีต่อจอร์เจีย
ประธานาธิบดี ดมิทรี เมดเวเดฟ ของรัสเซีย ประกาศผ่านโทรทัศน์ว่าตนได้ลงนามในพระราชกฤษฎีการับรองความเป็นเอกราชของเซาท์ออสเซเทียและอับคาเซีย หลังจากที่ทั้งสองแคว้นได้ยื่นคำร้องขอรับรองอธิปไตยจากทางการมอสโกเมื่อสัปดาห์ก่อน และได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาของรัสเซียเมื่อวานนี้
ประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวถึงการตัดสินใจของตนเองว่า เป็นความเคลื่อนไหวที่มีความชัดเจนในการปกป้องชายแดนของประเทศ ซึ่งรัสเซียได้ให้การรับรองการเป็นอิสระของอดีตดินแดนภายใต้สังกัดสหภาพโซเวียดหลังจากที่ได้มีการร้องขอเป็นครั้งแรก และจนกระทั่งเกิดการสู้รบขึ้น
นักวิเคราะห์บางส่วนแปลกใจกับการตัดสินใจของรัสเซียที่มองว่า การรับรองเอกราชครั้งนี้อาจจะส่งเสริมให้กลุ่มแบ่งแยกดินแดนภายในบริเวณชายแดนของรัสเซีย ซึ่งรวมเชชเนีย หลังจากที่เคยเกิดเหตุสู้รบเพื่อแบ่งแยกดินแดนมาแล้ว
ทางด้านสำนักข่าวเอพีรายงานว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัสเซียนี้จะทวีความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตก ซึ่งมีความเห็นขัดแย้งกับรัสเซียเกี่ยวกับสถานะของดินแดนกบฏทั้งสองซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ตั้งอยู่ระหว่างทะเลดำและทะเลแคชเบียน โดยสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปไม่เห็นด้วยกันรัสเซียที่ให้การสนับสนุนการแบ่งแยกดินแดนในอับคาเซียและเซาท์ออสเซเทีย นับตั้งแต่ที่ทั้งสองแยกตัวออกจากจอร์เจียในช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 แต่ยังไม่ได้ประกาศเอกราชจากจอร์เจียอย่างเต็มตัว และยังไม่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากประชาคมโลก