สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เผยประชาชนส่วนใหญ่มีความกังวลว่าความขัดแย้งทางการเมืองในขณะนี้จะส่งผลให้สังคมไทยกลายสภาพเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน และรู้สึกเครียดกับเรื่องดังกล่าว โดยเห็นว่าทางออกของวิกฤตครั้งนี้คือ คนในชาติรู้รักสามัคคี ยึดมั่นในกระบวนการยุติธรรม เจรจากันด้วยสันติ คำนึงถึงความเสียหายต่อประเทศชาติ และให้มีสติรู้จักยับยั้งชั่งใจ
"สิ่งสำคัญที่สุดในขณะนี้คือ ความมีสติและการรู้จักยับยั้งชั่งใจ ไม่ทำอะไรโดยใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล สาธารณชนไม่ควรเชื่อและยึดมั่นต่อข้อมูลข่าวสารที่เป็นไปอย่างเร่งรีบ แต่ควรนำข้อมูลที่ได้รับไปประกอบกับแหล่งความเป็นจริงอื่นๆ ให้รอบด้าน ไม่ควรเร่งรีบตัดสินใจทำอะไรด้วยอคติไปตามกระแสที่อาจผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงได้...คนในประเทศคำนึงถึงผลกระทบต่อสถาบันสูงสุดของประเทศ และดำเนินชีวิตไปตามปกติ ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมและความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในสังคม" นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงเชื่อมั่นต่อการปกครองแบบประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง แม้ประเทศจะพบกับปัญหาวิกฤตใดๆ ก็ตาม และยังหวังว่าปัญหาขัดแย้งหรือฝันร้ายทางการเมืองทุกอย่างจะคลี่คลายจบลงได้ด้วยดี ทั้งนี้ สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ได้สำรวจความคิดเห็นเรื่อง ทางออกฝ่าวิกฤตของประเทศไทยในทรรศนะของสาธารณชน จากประชาชนใน 16 จังหวัด จำนวน 2,718 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 26-27 ส.ค.นี้