นายกรัฐมนตรีอับดุลลาห์ อาหมัด บาดาวี ของมาเลเซีย ซึ่งกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทายกับสถานะการเป็นผู้นำประเทศ หลังจากที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง และเงินเฟ้อขยายตัวเร็วขึ้นนั้น อาจจะลดภาษีและจัดงบประมาณให้ถึงมือประชาชนมากขึ้น เพื่อเรียกเสียงสนับสนุนต่อการจัดทำงบประมาณประจำปี 2552 ของตนเอง
นักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็นคาดว่า นายอับดุลลาห์ อาจจะเสนอให้มีการลดภาษีรายได้ ปรับลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนบำเน็จบำนาญ และการยกเลิกการจัดเก็บภาษีคนจนในการกล่าวปราศรัยเรื่องงบประมาณในวันพรุ่งนี้
เศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวลงอาจจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของมาเลเซีย คุกคามการขยายตัว และกระเทือนต่อความพยายามที่จะอยู่ในอำนาจต่อไปของนายอับดุลลาห์ หลังจากที่พรรคร่วมฝ่ายค้านกวาดชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ นายอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำพรรคฝ่ายค้านก็ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งซ่อม และกลับเข้าสู่รัฐสภาได้เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ซึ่งถือเป็นความคืบหน้าในการโค่นล้มรัฐบาล
คิต เหว่ย เจิง นักเศรษฐศาสตร์ของซิตี้กรุ๊ป อิงค์ กล่าวว่า ชัยชนะอย่างท่วมท้นจองนายอันวาร์นั้นอาจจะทำให้รัฐบาลที่ตกเป็นรองต้องใช้มาตรการสร้างคะแนนนิยม เพื่อคงไว้ซึ่งอำนาจในมือ ซึ่งแน่นอนว่าการใช้มาตรการดังกล่าวมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะทำให้เกิดการขาดดุลด้านงบประมาณการเงิน
ปีนี้ มาเลเซียไม่ได้ขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อเหมือนกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยที่ประชุมธนาคารกลางมาเลเซียได้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 3.5% ติดต่อกันเป็นการประชุมครั้งที่ 19 ติดต่อกัน โดยอ้างเรื่องความวิตกกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวที่จะชะลอตัวลง แม้ว่าเงินเฟ้อเดือนก.ค.จะอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี
นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า เศรษฐกิจมาเลเซียอาจจะขยายตัว 6% ในไตรมาส 2 ซึ่งถือเป็นอัตราการขยายตัวที่ชะลอตัวมากที่สุดในรอบ 1 ปี
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--