นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เชื่อว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่บุกยึดทำเนียบรัฐบาลขณะนี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการให้เกิดการเมืองใหม่ตามที่พูดไว้ เพราะตราบใดที่ประเทศไทยยังคงใช้รัฐธรรมนูญฉบับปี 50 ก็ไม่มีทางที่จะก้าวเข้าสู่การเมืองใหม่ได้
"เราไม่คิดว่าการเคลื่อนไหวนี้เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย แต่เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อนำไปสู่การยุติประชาธิปไตยในบ้านเมือง...การเมืองใหม่ที่พันธมิตรฯ บอกว่าเป็นปลายทางสุดท้าย(ของการเคลื่อนไหว) นั้น คือต้องไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะตราบใดที่มีรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะมีการเมืองใหม่ตามที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง บอกไม่ได้" นายณัฐวุฒิ ระบุ
พร้อมกันนี้ ยังไม่เชื่อว่าสิ่งที่กลุ่มพันธมิตรฯ กำลังเรียกร้องอยู่นี้ไม่ได้เป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยหรือบ้านเมือง แต่เป็นการต่อสู้เพื่อปกป้องอิสระภาพของแกนนำทั้ง 9 คน
นายณัฐวุฒิ ยืนยันว่า เหตุการณ์นองเลือดที่หลายฝ่ายวิตกกังวลนั้นจะไม่เกิดขึ้นจากรัฐบาลนี้อย่างแน่นอน เพราะนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันแล้วว่าจะไม่สลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพียงแต่สถานการณ์ที่รัฐบาลเป็นกังวลคือสิ่งที่กลุ่มพันธมิตรฯ กำลังเตรียมการอยู่ในขณะนี้มากกว่า
"รัฐบาลไม่ได้ปฏิเสธการเคลื่อนไหว แต่การชุมนุมต้องเป็นไปด้วยสันติ สงบ ปราศจากอาวุธ และอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมเท่านั้น แต่ทำเนียบรัฐบาลไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะสม ขอให้เข้าใจการทำงานของรัฐบาล หากเป็นช่วงที่มีความจำเป็นก็ต้องเข้าไปควบคุมตัวแกนนำ เพื่อยุติความเสียหาย อาจต้องใช้กำลังผลักดันเข้าไป แต่ไม่ใช่ผลักดันในความหมายของการทำร้ายหรือทุบตี" นายณัฐวุฒิ ระบุ
รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ยังเรียกร้องว่า หากต้องการให้บ้านเมืองอยู่ในความสงบก็ทำได้ไม่ยาก เพียงแค่แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ประกาศยอมมอบตัวเพื่อต่อสู้คดี และสลายการชุมนุมตามคำสั่งของศาลแพ่ง ส่วนหลังจากนี้จะมีการสืบทอดหรือก่อตั้งกลุ่มพันธมิตรฯ อีกก็เป็นเรื่องของอนาคต
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ธนวัฏ โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--