รายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าพนักงานบังคับคดีที่ศาลแพ่งแต่งตั้งขึ้นในวันนี้ได้ร่วมหารือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อกำหนดแนวทางดำเนินการในการนำหมายศาลไปแจ้งบังคับคดีกับแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ เพื่อบังคับให้จำเลยซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯทั้ง 6 คนและผู้ชุมนุมออกจากทำเนียบรัฐบาล รวมทั้งรื้อย้ายเวที และเปิดพื้นที่การจราจรบริเวณ ถ.พิษณุโลก และราชดำเนิน
ด้านนายวรินทร์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหา ระบุว่า การบังคับคดีตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลแพ่งกรณีให้แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยย้ายกลุ่มผู้ชุมนุมและเวทีออกจากทำเนียบรัฐบาล รวมทั้งเปิดการจราจรในถนนราชดำเนินและถนนพิษณุโลกนั้นต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
"ต้องส่งให้ถึงตัวจึงถือว่ารับทราบคำสั่งศาลแล้ว ไม่ใช่ให้คนรับแทน...ตัวจำเลยอยู่ในทำเนียบฯ แล้วไปติดหมายที่บ้านคุณจำลองแล้วเขาจะรู้เรื่องไหมล่ะ"นายวรินทร์ กล่าวทางรายการวิทยุ
ทั้งนี้ ตามกระบวนการของกฎหมายมีเวลาที่จะแจ้งคำสั่งศาลให้จำเลยรับทราบภายใน 15 วัน หากผ่านตามขั้นตอนดังกล่าวแล้วจึงมีผลบังคับใช้
นายวรินทร์ กล่าวว่า การบังคับคดีแพ่งจะต้องดำเนินการโดยเจ้าพนักงานบังคับคดีที่ได้รับการแต่งตั้งจากศาล ไม่สามารถให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดำเนินการแทนได้
ขณะที่นายธงทอง จันทรางศุ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รักษาการแทนปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า หลังจากศาลแพ่งสั่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีคงจะออกประกาศของกรมบังคับคดีไปปิดประกาศที่หน้าทำเนียบฯ เพื่อให้กลุ่มผู้ชุมนุมออกจากทำเนียบฯ ทันทีตามคำสั่งของศาล แต่คงดำเนินการไม่ทันภายในเย็นวันนี้
"หากเจ้าพนักงานปิดประกาศแล้ว ผู้ชุมนุมมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาล ถ้ายังฝ่าฝืนสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นโจทก์ก็จะร้องต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี จากนั้นเจ้าพนักงานฯ จะร้องต่อศาลแพ่ง ขอให้ออกหมายจับแกนนำพันธมิตรฯอีกครั้ง"นายธงทอง กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--