จอร์เจียวางแผนตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซีย ขณะนานาชาติส่งสัญญาณไม่เข้าข้างรัสเซีย

          กระทรวงการต่างประเทศจอร์เจียเปิดเผยว่า จอร์เจียเตรียมตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซีย หลังรัสเซียรับรองเอกราชของแคว้นเซาท์ ออสเซเทียและอับคาเซียให้เป็นรัฐอิสระจากการปกครองของจอร์เจีย โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่การทูตของจอร์เจียทุกคนจะเดินทางออกจากกรุงมอสโกในวันนี้ หลังจากที่จอร์เจียลดจำนวนเจ้าหน้าที่และเรียกตัวเอกอัครราชทูตประจำรัสเซียกลับประเทศเมื่อเดือนที่แล้ว
          อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียได้แถลงแสดงความเสียใจกรณีที่จอร์เจียตัดความสัมพันธ์กับรัสเซีย พร้อมกับย้ำว่า การตัดสินใจของจอร์เจียจะไม่เป็นผลดีต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างประเทศทั้งสอง 
          สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ความพยายามของรัสเซียที่จะขอเสียงสนับสนุนจากชาติมหาอำนาจอาจจะคว้าน้ำเหลว หลังจากจีนออกมาส่งสัญญาณว่าจะไม่สนับสนุนการกระทำของรัสเซียที่บุกโจมตีจอร์เจียและให้การรับรองแคว้นอับคาเซียและเซาท์ออสเซเทียเป็นรัสอิสระ
          ในการประชุมสุดยอด Shanghai Cooperation Organization ซึ่งเป็นการประชุมความมั่นคงของ 7 ชาติพันธมิตร รวมถึงจีนและ 4 ประเทศที่เคยเป็นอาณานิคมของสหภาพโซเวียตนั้น นายฉิน กัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวว่า "รัฐบาลจีนรู้สึกกังวลในเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง"
          ด้านนายซู เฟิง ผู้เชี่ยวชาญสาขาประวัติศาสตร์ต่างประเทศประจำมหาวิทยาลัยปักกิ่งกล่าวว่า "จีนไม่มีนโยบายแทรกแซงประเทศอื่นๆอยู่แล้ว เพราะจีนเองก็มีปัญหาที่ต้องแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในเมืองซินเจียง ทิเบต และไต้หวัน การที่รัสเซียร้องขอการสนับสนุนจากจีนคงเป็นเรื่องยาก"
          ขณะที่นายโรเบิร์ต วู้ด โฆษกระทรวงต่างประเทศสหรัฐชูประเด็นเรื่องการโดดเดี่ยวรัสเซีย ว่า "สหรัฐไม่เห็นด้วยต่อการกระทำของรัสเซีย รัสเซียไม่ควรสนับสนุนการแยกตัวเป็นอิสระของแคว้นอับคาเซียและเซาท์ออสเซเทีย ซึ่งเป็นหนึ่งในเขตแดนการปกครองของจอร์เจีย"
           นอกจากนี้ นายเบอร์นาร์ด คูชเนอร์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสกล่าวว่า สหภาพยุโรปกำลังพิจารณาใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย ขณะที่ตุรกีได้ออกมาประณามรัสเซีย พร้อมระบุว่า รัสเซียเป็นภัยคุกคามระลอกใหม่ที่ละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ