ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนชี้ว่า บารัค โอบามา ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต มีคะแนนนำหน้านายจอห์น แมคเคน ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน ในสัดส่วนที่ถือว่าห่างมากที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนก.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่โอบามากล่าวสุนทรพจน์รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคต่อหน้าประชาชน 75,000 คนเมื่อวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา
นอกจากนี้ การที่แมคเคนสร้างความประหลาดใจด้วยการประกาศเลือกนางซาราห์ พาลิน ผู้ว่าการหญิงของรัฐอแลสก้าเป็นคู่ชิงรองประธานาธิบดี ยังถูกมองว่ามีส่วนทำให้โอบามาขยับทำคะแนนทิ้งห่างนายแมคเคนเพิ่มขึ้นในโพลล์ครั้งล่าสุดนี้
ผลสำรวจล่าสุดโดยกัลลัพ โพลล์ เผยให้เห็นว่า วุฒิสมาชิกรัฐอิลลินอยส์วัย 47 ปี มีคะแนนนิยมอยู่ที่ 49% เหนือว่าแมคเคนที่มีอยู่ 41% หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตสามวันระหว่างวันที่ 25-28 ส.ค.ที่เดนเวอร์ รัฐโคโลราโด โดยก่อนหน้านี้ผู้สมัครทั้งสองคนมีคะแนนนิยมเสมอกันอยู่ที่ 45%
โดยการนำห่าง 8% ในโพลล์ครั้งล่าสุดนี้ เกือบเท่ากับที่โอบามาเคยมีคะแนนนำวุฒิสมาชิกวัย 72 ปี จากรัฐแอริโซน่า ถึง 9% จากการสำรวจของกัลลัพ โพลล์ เมื่อวันที่ 24-26 ก.ค.ที่ผ่านมา
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ของโอบามาสามารถดึงดูดผู้ชมทางโทรทัศน์ได้ 38.4 ล้านคน ซึ่งมากกว่าเมื่อครั้งที่ผู้ชมเปิดทีวีชมการรับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตของวุฒิสมาชิกจอร์น เคอร์รี่ จากรัฐแมสซาชูเซตส์ ในปี 2547 ถึง 57% จากการสำรวจเรตติ้งของนีลสัน โค
นอกจากนี้ โพลล์ซึ่งจัดทำโดยยูเอสเอ ทูเดย์/กัลลัพ เมื่อวันที่ 29 ส.ค. พบว่า 40% ของผู้ร่วมตอบแบบสำรวจเชื่อว่าพาลินมีคุณสมบัติเหมาะสมเป็นรองประธานาธิบดี ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีจอร์จ บุช เลือก แดน เควล ส.ว.รัฐอินเดียน่าเป็นรันนิ่งเมท เมื่อปีพ.ศ. 2531 ขณะที่ ผู้ร่วมตอบแบบสำรวจจำนวน 1ใน3 ไม่คิดว่าผู้ว่าการรัฐหญิงวัย 44 ปี มีคุณสมบัติเหมาะสม และที่เหลือไม่ขอออกความคิดเห็น นอกจากนี้ ผู้ร่วมตอบแบบสำรวจถึงครึ่งหนึ่งไม่เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของพาลินมาก่อนที่เธอจะได้รับการคัดเลือก
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--