มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เปิดเผยในรายงานพิเศษวันนี้ว่า ปัจจัยพื้นฐานด้านความน่าเชื่อถือของไทยยังคงแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรั้งอันดับความน่าเชื่อถือที่สกุลเงินบาทไว้ที่ระดับ Baa1 และแนวโน้มอันดับเครดิตของไทยยังคงมีเสถียรภาพ แม้สถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้มีความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของไทยในระยะยาวก็ตาม
โทมัส ไบร์น รองผู้อำนวยการฝ่ายจัดอันความเสี่ยงประเทศของมูดีส์ระบุในรายงานความเห็นพิเศษว่า ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของไทยยังมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรั้งอันดับความน่าเชื่อถือและแนวโน้มความน่าเชื่อถือดังกล่าวเอาไว้ได้ แต่สถานการณ์การปะทะกันระหว่างผู้สนับสนุนรัฐบาลและผู้ต่อต้านรัฐบาลไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อรัฐบาลเท่านั้น แต่ยังเป็นความเสี่ยงระยะยาวต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจไทยอีกด้วย
มูดี้ส์ระบุว่า ภายหลังเกิดการปฏิวัติเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2006 เพื่อโค่นอำนาจอดีตนายกฯทักษิณ สถานการณ์การเมืองไทยอยู่ในภาวะที่ทรงตัว ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานด้านความน่าเชื่อถือภายนอกประเทศ และฐานะการคลังของไทยยังคงมีความเข้มแข็ง ถึงแม้ว่าการฟื้นฟูความเชื่อของนักลงทุนจะยังคงไม่สามารถทำได้มากนักก็ตาม
อย่างไรก็ดี ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา ประกอบการเศรษฐกิจที่ผันผวน ยิ่งทำให้การฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุนในอนาคตอันใกล้นี้เป็นเรื่องที่ต้องตั้งคำถามยิ่งนัก ไบร์นกล่าว
นายไบร์นกล่าวต่อไปว่า การยึดทำเนียบรัฐบาลและการยึดสนามบินภูเก็ต และกระบี่โดยกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับอนาคตประชาธิปไตยของไทยเท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความเป็นกลางของระบบศาลของไทย ซึ่งล้มเหลวที่จะบังคับใช้กฎหมายต่อการกระทำของกลุ่มพันธมิตร
นายไบร์นกล่าวว่า หากกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาลใช้วิธีการที่ก่อให้เกิดความรุนแรงเช่นเดียวกันกับกลุ่มพันธมิตร สถานการณ์การเมืองไทยย่อมหยุดชะงัก และเพิ่มความเป็นไปได้มากขึ้นที่ว่าทหารอาจเข้ามาแทรกแซงทางการเมืองอีกครั้ง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--