"อียู" ระงับการเจรจาเป็นพันธมิตรกับรัสเซีย ขณะรัสเซียโต้เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด

          ผู้นำประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) เห็นพ้องให้ระงับการเจรจาเกี่ยวกับการทำข้อตกลงเป็นพันธมิตรกับรัสเซีย จนกว่ารัสเซียจะถอนทหารออกจากจอร์เจีย
          โฮเซ มานูเอล บาร์โรโซ ประธานคณะกรรมาธิการอียู กล่าวภายหลังการประชุมฉุกเฉินเพื่อทบทวนความสัมพันธ์กับรัสเซียว่า อียูไม่สามารถทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ อียูยังได้ประณามความเคลื่อนไหวของรัสเซียที่รับรองเอกราชของเซาท์ออสเซเทียและอับเคเซีย ซึ่งเป็นสองแคว้นที่พยายามแยกตัวออกจากจอร์เจีย
          ด้านประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซีย์ ของฝรั่งเศส ในฐานะประธานหมุนเวียนของอียู กล่าวภายหลังการประชุมดังกล่าวในกรุงบรัสเซลส์ ว่า สมาชิกอียูเห็นพ้องให้เลื่อนการเจรจาการทำข้อตกลงเป็นพันธมิตรกันระหว่างอียูและรัสเซีย ซึ่งเดิมมีกำหนดจะจัดขึ้นในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้ 
          ซาร์โกซีย์กล่าวว่า สถานการณ์ในขณะนี้ทำให้อียูต้องทบทวนความสัมพันธ์กับรัสเซีย โดยความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายกำลังเดินมาถึงทางแยก  
          ขณะที่รัสเซียออกมาตอบโต้ว่า การระงับการเจรจาดังกล่าวอาจเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของอียูได้ โดยนายวลาดิเมียร์ ชิซฮอฟ ผู้แทนของรัสเซียในอียูกล่าวว่า การตัดสินใจดังกล่าวของสหภาพยุโรปเป็นเหมือนการลงโทษตัวเอง เพราะไม่ได้ช่วยให้ความน่าเชื่อถือของอียูดีขึ้นในฐานะตัวกลางเจรจาไกล่เกลี่ย 
          ก่อนหน้านี้ เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียก็ออกมาเตือนอียูและสหรัฐว่า การที่ทั้งสองฝ่ายยังให้การสนับสนุนจอร์เจียต่อไปจะเป็นความผิดพลาดที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ 
          ทั้งนี้ ผู้นำฝรั่งเศสประกาศว่าจะเดินทางเยือนมอสโกในวันจันทร์ พร้อมกับนายบาร์โรโซและนายฮาเวียร์ โซลานา หัวหน้านโยบายต่างประเทศอียู เพื่อหารือเกี่ยวกับวิกฤตการณ์นี้กับรัฐบาลรัสเซีย
          ขณะเดียวกัน นายโซลานา กล่าวว่า อียูพร้อมที่จะส่งเจ้าหน้าที่หลายร้อยคนไปประจำการในจอร์เจียเพื่อสังเกตการณ์ว่ารัสเซียปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงกับจอร์เจียซึ่งมีอียูเป็นตัวกลางหรือไม่