ศาลอาญา มีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ยื่นขอให้ศาลเพิกถอนหมายจับแกนนำทั้ง 9 คน เนื่องจากศาลเห็นว่าไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนคำสั่งออกหมายจับดังกล่าว และในกรณีเช่นนี้ไม่มีบทบัญญัติใดที่ให้สิทธิแก่พนักงานสอบสวนหรือผู้ต้องหาที่จะอุทธรณ์โต้แย้งคำสั่งดังกล่าวได้
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 68 บัญญัติว่า"หมายจับคงใช้ได้อยู่จนกว่าจะจับได้ เว้นแต่ความผิดอาญาหมายนั้นขาดอายุความ หรือ ศาลซึ่งออกหมายนั้นได้ถอนหมาย" จากบทบัญญัตืดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า อำนาจในการเพิกถอนหมายจับนั้นเป็นอำนาจพิจารณาของศาล ซึ่งเป็นผู้ออกหมายจับ ในคดีนี้ย่อมหมายถึงศาลอาญาเท่านั้นที่มีอำนาจในการเพิกถอนหมายจับดังกล่าวได้
นอกจากนี้ การออกหมายจับตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาที่ให้อำนาจพนักงานสอบสวนขอให้ศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีอาญานั้น ได้ให้ศาลใช้ดุลยพินิจการออกหมายจับได้ตามบทบัญญัติของกฎหมายและเป็นคำร้องฝ่ายเดียวของพนักงานสอบสวน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 21 (3) ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 15 จึงเป็นเรื่องระหว่างศาลกับพนักงานสอบสวน เมื่อศาลได้ดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนคำร้องของผู้ร้องโดยชอบ ไม่ผิดระเบียบใด และศาลอาญาได้ออกหมายจับทั้ง 9 โดยถูกต้องตามกฎหมายแล้ว
นายสุวัฒน์ อภัยภักดิ์ ทนายความกลุ่มพันธมิตรฯ ระบุว่า ในวันพรุ่งนี้จะมายื่นอุทธรณ์อีกครั้งเนื่องจากเห็นว่าศาลอาญาไม่ส่งเรื่องให้ศาลอุทธรณ์ตามขั้นตอนที่ควรจะเป็น โดยจะมีการยกกรณีที่มีการเพิกถอนหมายจับนายสุนัย มโนมัยอุดม อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) มาเสนอให้ศาลประกอบการพิจารณาด้วย
--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--