นักวิชาการแนะรัฐดันงบปี 52 ใช้ทันเวลา/เอกชนชี้ปิดท่าเรือทำส่งออกพัง

ข่าวการเมือง Tuesday September 2, 2008 18:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า แม้สถานการณ์บ้านเมืองจะวุ่นวาย แต่รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2552 วงเงิน 1.83 ล้านล้านบาทให้ผ่านการพิจารณารัฐสภา และใช้ทันตามฤดูกาล เพื่อช่วยประคับประคองเศรษฐกิจให้เดินหน้าได้ หากงบประมาณไม่ผ่านและเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง เช่น ยุบสภาก้จะเกิดผลกระทบกว้างขวางต่อการพัฒนาประเทศ และทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงักยาวไปถึงปี 52 ทั้งการจ้างงาน โครงการลงทุนขนาดใหญ่ และความเชื่อมั่นจากเอกชน
สำหรับผลกระทบจากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินนั้นในระยะสั้นจะกระทบการท่องเที่ยว เพราะต่างชาติชะลอและยกเลิกเดินทางมาไทย รวมถึงยอดจองอนาคตด้วย เพราะความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ และหลายประเทศประกาศเตือนให้ระวังเดินทางเข้าไทยแล้ว ส่วนผลกระทบต่อตลาดหุ้น ตลาดตราสาร ทำให้ชาวต่างชาติถอนการลงทุน เพราะไม่มั่นใจสถานการณ์ว่าจะคลี่คลายอย่างไร ส่งผลให้ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงได้อีก สำหรับผลกระทบระยะยาวไม่น่ากระทบมาก และการเติบโตของเศรษฐกิจยังน่าเกิน 5% แต่ยอมรับว่า คงทำให้การลงทุนเอกชน และความเชื่อมั่นผู้บริโภคชะลอตัวต่อเนื่องถึงสิ้นปี
ด้านนายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า กรณีที่พนักงานการท่าเรือกรุงเทพฯ นัดหยุดงานส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและสูญเสียโอกาสทางการค้าของไทยอย่างรุนแรง ทำให้การส่งออกเสียหายหลายพันล้านบาท รวมถึงระบบเศรษฐกิจจะได้รับความเสียหายเพราะต้องพึ่งพาส่งออก ทางออกของปัญหาที่ดีที่สุดคือการยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่
"ถึงเวลาที่ต้องลดราวาศอก ผมเห็นด้วยกับการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ เพราะหากรัฐบาลลาออกก็จะไปกังวลว่าใครจะเข้าบริหารประเทศ"นายชูเกียรติ กล่าว
ขณะที่ นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ นายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย กล่าวว่า กรณรีดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างมากกับผู้ส่งออก โดยเฉพาะสินค้าที่เกิดความเสียหายได้ง่าย อย่างอาหารทะเล และสินค้าเกษตร ซึ่งผู้ส่งออกต้องขนย้ายสินค้าจากท่าเรือกรุงเทพฯไปที่ท่าเรือแฉลมฉบังแทน เพื่อให้การขนส่งสินค้าทันตามระยะเวลาส่งมอบ ทำให้เกิดต้นทุนค่าขนย้ายเพิ่มเฉลี่ยประมาณ 10,000 บาทต่อตู้คอนเทนเนอร์
"เป็นเหตุการณ์ที่นอกเหนือความคาดหมาย และเอกชนไม่ได้เตรียมการไว้ล่วงหน้า หวั่นว่าการนัดหยุดงานลามไปทั่วประเทศ หรือเกิดจลาจล ซึ่งจะทำให้ผู้ซื้อลังเลสั่งซื้อสินค้าล็อตใหม่ และห่วงหน่วยงานต่างๆ จะเอาอย่างหยุดงานตาม ความขัดแย้งจะขยายวงกว้างขึ้น จนทำให้คนไทยต้องปะทะกันเอง ซึ่งจะสูญเสียยิ่งกว่าเศรษฐกิจพัง เพราะความรู้สึกบาดหมาง และเอาชนะกันโดยไม่สนใจอะไร จะทำให้ประเทศชาติพัง" นายพจน์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ