เมื่อวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา วุฒิสมาชิก บารัค โอบามา ได้รับเสียงชื่นชมอย่างท่วมท้นทั้งจากนักวิเคราะห์และประชาชนทั่วไป หลังขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครต ขณะรับตำแหน่งตัวแทนพรรคลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ท่ามกลางกลุ่มผู้สนับสนุน 80,000 คน ที่มารวมตัวกันเพื่อเป็นสักขีพยาน รวมถึงชาวอเมริกันกว่า 38 ล้านคนที่ร่วมชมการถ่ายทอดสดอยู่ทางบ้าน ซึ่งมากกว่าจำนวนผู้ชมการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ในวันสุดท้ายของการประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันเมื่อปี 2004 ที่มีผู้ชมราว 27.6 ล้านคน และเชื่อว่าเป็นการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมใหญ่พรรคที่มีผู้ชมมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
ความสำเร็จและกระแสตอบรับอันล้นหลามที่โอบามาได้รับคงทำให้วุฒิสมาชิก จอห์น แมคเคน คู่แข่งคนสำคัญจากพรรครีพับลีกันต้องลำบากใจไม่น้อย นอกจากนั้นนักวิเคราะห์ส่วนมากยังเชื่อมาตลอดว่าโอบามาได้เปรียบแมคเคนอยู่พอสมควร เนื่องจากโอบามาเป็นนักการเมืองหนุ่มไฟแรงวัยเพียง 47 ปี แต่กลับมีความสุขุมนุ่มลึกน่าเชื่อถือ บวกกับวาทะศิลป์อันยอดเยี่ยม นอกจากนั้นยังมีทีมกุนซือประสบการณ์โชกโชนคอยหนุนหลังอยู่ด้วย
ในขณะที่แมคเคน วัย 72 ปี มักจะถูกกังขาว่าแก่เกินไปสำหรับการบริหารประเทศ นอกจากนั้นยังขึ้นชื่อเรื่องความเป็นคนปากร้ายและอารมณ์ร้อน จนถูกสื่อหลายฉบับตั้งฉายาให้ว่า “Senator Hothead" (วุฒิสมาชิกเลือดร้อน) เขาพร้อมที่จะเล่นงานทุกคนไม่ใช่เฉพาะนักการเมืองต่างพรรค แต่ยังรวมไปถึงนักการเมืองร่วมพรรคเดียวกัน ผู้ว่าการรัฐ อาสาสมัครที่ช่วยเขาหาเสียง หรือแม้แต่ประชาชนทั่วไป จนหลายคนตั้งข้อสงสัยว่าเขาเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐซึ่งต้องควบตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดและมีอาวุธนิวเคลียร์อยู่ในมือหรือไม่ ถึงกระนั้น ดูเหมือนว่าเจ้าตัวออกจะภูมิใจในความเป็นคน “ปากตรงกับใจ" ของตัวเองอยู่ไม่น้อย
ลักษณะนิสัยเลือดร้อนและดุดันของแมคเคนอาจมาจากสายเลือดของความเป็นทหารซึ่งตกทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่และพ่อของเขา แมคเคน ซึ่งมีชื่อเต็มว่า จอห์น ซิดนีย์ แมคเคน ที่ 3 เกิดเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ค.ศ.1936 ที่ฐานทัพเรือโคโค โซโล ของหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐอเมริกาซึ่งตั้งอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติก ใกล้กับคลองปานามา เมื่อเติบใหญ่ แมคเคนดำเนินรอยตามปู่และพ่อด้วยการเข้าศึกษาในโรงเรียนนาวิกโยธินแห่งสหรัฐอเมริกาจนจบการศึกษาในปี 1958 จากนั้นได้ร่วมรบในสงครามเวียดนาม ผ่านประสบการณ์เฉียดตายหลายครั้ง จนในที่สุดก็ถูกจับเป็นเชลยของฝ่ายตรงข้ามเป็นเวลนานถึง 5 ปีครึ่งกว่าจะได้รับการปล่อยตัวในปี 1973 หลังสหรัฐอเมริกาลงนามสงบศึก
ในปี 1981 แมคเคนตัดสินใจลาออกจากหน่วยนาวิกโยธินและย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ที่รัฐแอริโซน่า จากนั้นก็เริ่มเข้าสู่วงการการเมืองในปีถัดมา และได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกาจากรัฐแอริโซน่าในปี 1984 และหลังจากนั้นเพียง 2 ปี ก็ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐอเมริกาจากรัฐแอริโซน่า และชนะการเลือกตั้งอีกหลายครั้งในปี 1992, 1998 และ 2004
ในปี 2000 แมคเคนได้ลงสมัครชิงตำแหน่งตัวแทนพรรครีพับลีกันเพื่อชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับ จอร์จ ดับเบิลยู บุช ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน แต่ในที่สุดเวลาของแมคเคนก็มาถึง เมื่อเขาสามารถคว้าตำแหน่งตัวแทนพรรครีพับลีกันลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐได้เป็นผลสำเร็จในปีนี้
ล่าสุด จอห์น แมคแคน วุฒิสมาชิกจากรัฐอาริโซน่า ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของการประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 4 วัน ณ เมืองเซนต์ พอล รัฐมินนิโซตา
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าการเสนอชื่อ แมคเคน กลับถูกบดบังจากสุนทรพจน์ของ ซาราห์ พาลิน คู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีของแมคเคน ที่ออกมาตอบโต้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ พร้อมกล่าวโจมตี บารัค โอบามา คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต อย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน
แมคเคน วีรบุรุษสงครามเวียดนามผู้มีประสบการณ์บนถนนการเมืองอย่างยาวนานกว่า 20 ปี จะสามารถพลิกสถานการณ์ที่ค่อนข้างเสียเปรียบการเมืองรุ่นใหม่ไฟแรงอย่างโอบามาได้หรือไมู่ คงต้องจับตาดูกันต่อไป
--อินโฟเควสท์ โดย ปรียพรรณ มีสุข/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--