(เพิ่มเติม) "หมอเลี้ยบ"เผยข้อเสนอทางออกวิกฤติมีมากกว่ายุบสภา-ลาออก

          นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชาชน(พปช.) ระบุเตรียมนำผลการหารือร่วมกันของ 7 พรรคการเมืองเสนอให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมรับทราบภายในคืนนี้ โดยระบุมีทางออกมากกว่าให้นายกรัฐมนตรียุบสภาหรือลาออก 
          แต่นพ.สุรพงษ์ ปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดต่อสื่อมวลชน เพียงระบุว่าทางพรรค พปช.ยังไม่ได้เตรียมหาบุคคลที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทนหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายสมัครมีคุณสมบัติขัดต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
          "ไม่มี รอฟังคำพิพากษาแล้วจะแลกเปลี่ยนกันอีกครั้ง...คืนนี้หากมีเวลาจะพบปะกับท่าน โดยขณะนี้มีหลายทางจะคุยจะเล่าให้ฟังว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งมีมากกว่าสองทาง"นพ.สุรพงษ์ กล่าว
          นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ในการหารือร่วมกันระหว่าง 7 พรรคการเมืองไม่ได้มีการกำหนดกรอบเวลาในการดำเนินการแก้ปัญหาวิกฤติทางการเมือง แต่หารือเรื่องทางออกว่าจะเป็นไปอย่างไร ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและสร้างความเชื่อมั่นต่อระบอบประชาธิปไตยเพิ่มมากขึ้น และมั่นใจว่านายกรัฐมนตรีจะยอมรับฟังและพิจารณาตัดสินใจด้วยตัวเอง
          ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การหารือร่วมกันระหว่าง 7 พรรคการเมือง ประธานวุฒิสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร วันนี้มีความเห็นที่หลากหลายและมองสถานการณ์ในหลายแง่มุม แต่ในที่สุดเห็นว่าการดำเนินการโดยระบบรัฐสภาต้องขึ้นอยู่กับเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งคือ 6 พรรคร่วมรัฐบาล โดยจะนำข้อสรุปที่ได้ไปแจ้งให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ
          การหารือในวันนี้ไม่มีการพูดถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยสถานะของนายสมัครกรณีเป็นพิธีกรจัดรายการชิมไปบ่นไปและยกโขยงหกโมงเช้า แต่ทุกฝ่ายเห็นว่าควรปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการรัฐสภา ดังนั้นคนที่จะมาเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารจะต้องมาจากเสียงข้างมาก แต่ยังไม่มีการพูดถึงการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง และไม่ได้คิดไปไกลกว่านั้น เพียงแต่พูดให้ทุกคนได้รับทราบว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติที่ต้องสรรหาผู้มาเป็นนายกฯ
          ส่วนแนวคิดในการยุบสภา หรือนายกฯลาออกนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตรงนี้อยู่ที่นายกฯ ไม่มีใครสามารถไปบังคับหรือตัดสินแทนนายกฯได้ อย่างไรก็ตามยังมีความพยายามจะเจรจากันอีกครั้ง แต่เป็นเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลต้องไปดูว่าจะเจรจาในกรอบใด เพราะที่ผ่านมาการพยายามเจรจาของประธานวุฒิสภายังไม่ได้รับกรอบการเจรจาจากรัฐบาล
          สำหรับกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ ไม่เชื่อมั่นว่ากระบวนการทางรัฐสภาจะสามารถแก้ปัญหาได้นั้น ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า ถ้าไม่ใช้ระบบนี้แล้วจะใช้เครื่องมือใด รวมถึงกรณีที่นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ได้เจรจากับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) เพราะไม่อยากให้มีการปฏิวัติและการใช้ความรุนแรงเป็นคำตอบ