สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเรื่อง "สาธารณชนคิดอย่างไรต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และรัฐบาลแห่งชาติในสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน" พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 56.1% ไม่ต้องการให้รัฐบาลปัจจุบันทำงานต่อ โดยพบว่าคนกรุงเทพฯ มีสัดส่วนสูงสุดที่แสดงความไม่ต้องการให้รัฐบาลชุดนี้ทำงานต่อ รองลงมาเป็นคนภาคเหนือ และภาคใต้ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน
ขณะที่ประชาชนเพียง 43.9% ที่ยังต้องการให้รัฐบาลทำงานต่อ โดยคนอีสานเป็นสัดส่วนมากสุดที่ต้องการให้รัฐบาลชุดนี้ทำงานต่อ
เมื่อสอบถามถึงแนวคิดในการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ พบว่า ประชาชน 56.5% ระบุว่าสนใจแนวคิดดังกล่าว แต่อีก 43.5% ยังไม่สนใจ ส่วนความต้องการให้เลือกตั้งใหม่พบว่า 57.4% ต้องการให้จัดเลือกตั้งใหม่ แต่อีก 42.6% ไม่ต้องการ
"สาธารณชนกำลังให้ความสนใจต่อแนวคิดการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ และกลุ่มพลังเงียบส่วนใหญ่ต้องการให้มีการเลือกตั้งใหม่ ดังนั้นสมาชิกรัฐสภาอาจนำข้อมูลนี้ไปพิจารณา เช่น อาจจะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเฉพาะบางมาตรา และสมาชิกรัฐสภาเห็นพ้องต้องกันในการสรรหาคนกลางเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมืองเป็นรัฐบาลแห่งชาติ และเตรียมความพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้งใหม่โดยเร็วที่สุด เพื่อให้การเลือกตั้งใหม่เป็นไปอย่างบริสุทธิ์และเที่ยงธรรมมากขึ้น" นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ ระบุในเอกสารเผยแพร่
นอกจากนี้ยังพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ 61.1% ต้องการให้ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่กรุงเทพฯ ขณะที่ 38.9% ระบุว่าไม่ต้องการให้ยกเลิก
ทั้งนี้การสำรวจดังกล่าวมาจากความเห็นของประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งใน 18 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 3,928 ตัวอย่าง ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่ 5-9 ก.ย.51
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ธนวัฏ โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--