ชท.ยันจับขั้วเดิมตั้งรัฐบาลแต่จี้เปลี่ยนนายกฯ หลังบอยคอตเลือก"สมัคร"

          นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย แถลงยืนยันว่า พรรคชาติไทยจะไม่มีการเปลี่ยนขั้วการเมืองเพื่อจัดตั้งรัฐบาล รวมทั้งสนับสนุนพรรคพลังประชาชน(พปช.)ที่มีเสียงข้างมากเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีต่อไป โดยเสนอแนะคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องเป็นผู้ที่มีภาพพจน์ที่ดี ยุติปัญหาความขัดแย้ง ผ่าทางตันให้ประเทศได้ 
          นายสมศักดิ์ ปฏิเสธให้ความเห็น หาก พปช.ยังยืนยันการตัดสินใจให้นายสมัครมาเป็นนายกรัฐมนตรีในการประชุมสัปดาห์หน้า 
          "เรารับฟังเสียงประชาชน ว่ารู้สึกอย่างไร คนที่จะเป็นนายกฯต้องเป็นคนที่ผ่าทางตันประเทศได้ และถ้าดีที่สุด นายกฯจะต้องมีภาพพจน์ที่รับได้ และยุติปัญหาความขัดแย้งได้" นายสมศักดิ์ กล่าวหลังจาก ส.ส.ของพรรคไม่เข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรในเช้าวันนี้ เช่นเดียวกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลอื่น ๆ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีต้องเลื่อนออกไปเป็ฯสัปดาห์หน้า  
          รองหัวหน้าพรรค ชท.กล่าวว่า สาเหตุที่พรรค ชท.ไม่ร่วมโหวตเลือกนายกฯ ในวันนี้ มาจาก 2 เหตุผลสำคัญ คือ พรรคการเมือง มีความผูกพันกับประชาชน และแคร์ความรู้สึกของประชาชน ซึ่งเมื่อประชาชน มีความห่วงใยบ้านเมืองในสถานการณ์เช่นนี้ จึงเป็นสิ่งที่ทุกพรรคไม่สามารถปฎิเสธได้ อีกเหตุผลคือ ภายในพรรค พปช. ยังไม่มีการตกผลึกได้ข้อสรุปในตัวนายกรัฐมนตรีคนใหม่ 
          การที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่เข้าร่วมประชุมสภาฯ ไม่ได้เป็นอารยะขัดขืน แต่เป็นการแสดงสำนึกของนักการเมืองที่ทุกคน ต่างเข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และการตัดสินใจในวันนี้ ถือเป็นการตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่ และมีความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง โดยไม่ต้องการให้เกิดปัญหาความขัดแย้งบานปลายต่อไปอีก
          "ไม่ใช่อารยะขัดขืน แต่เป็นสำนึกของนักการเมือง ที่ทุกคนควรเข้าใจปัญหาว่า เป็นแบบนี้ ทุกคนก็ห่วงใยบ้านเมือง การตัดสินใจวันนี้ ถือว่ายิ่งใหญ่และท้าทาย และมีมโนธรรมว่าเรารับผิดชอบต่อบ้านเมือง ถือเป็นนิมิตรหมายดี ที่ไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งบานปลาย"นายสมศักดิ์ กล่าว
          ทั้งนี้ ก่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธหน้าเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ถือเป็นช่วงที่หลายฝ่าย ต้องช่วยกันฉุกคิดว่าพรรคการเมืองที่มีความเป็นสถาบันการเมืองจะนำพาชาติไปในทิศทางใด และจากนี้ไปจะต้องทบทวนสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อตัดสินใจถึงอนาคตบ้านเมือง