"บิ๊กจิ๋ว"ระบุวิกฤติการเมืองมีทางออก/พธม.มีเจตนาดีแต่วิธีอาจไม่ถูกต้อง

         พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "พรุ่งนี้ประเทศไทย" โดยมองว่าสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่เกิดขึ้นขณะนี้ถือว่ายังมีทางออกที่จะแก้ไขได้ ซึ่งหากเทียบกับสถานการณ์ทางการเมืองในอดีตกว่า 70 ปีที่ผ่านมายังมีความรุนแรงมากกว่านี้แต่ก็ยังสามารถแก้ไขจนผ่านพ้นไปได้
          ทั้งนี้ที่มาของความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบันเกิดจากความไม่เป็นธรรมในการปกครอง และอำนาจไม่ได้เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง ดังนั้นการแก้ปัญหาที่สำคัญคือต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ได้ก่อนแล้วจึงค่อยไปแก้ที่ปัญหาพื้นฐาน โดยปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องแก้ไข คือ การเร่งสร้างความปรองดองและความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง
          อดีตนายกรัฐมนตรี เห็นว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ยังไม่สามารถทำหน้าที่ในเรื่องความปรองดองและความสมานฉันท์ได้ดีนักและไม่นำไปสู่การแก้ปัญหาได้ จึงเป็นเหตุให้ประชาชนภายใต้การนำของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต้องออกมาลุกขึ้นต่อสู้ด้วยตัวเอง เนื่องจากรับไม่ได้กับการเมืองที่มาจากการซื้อเสียงและไม่ได้มีนักการเมืองที่เป็นตัวแทนของประชาชนที่มาจากประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์
          พร้อมแนะว่าไม่ควรไปตำหนิการดำเนินการของกลุ่มพันธมิตรฯ เพราะมีเป้าหมายที่แท้จริงคือการทำเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนโดยส่วนใหญ่ที่ต่างต้องการเห็นการเมืองไทยที่มีความบริสุทธิ์ยุติธรรม เพียงแต่กลุ่มพันธมิตรฯ อาจใช้รูปแบบหรือวิธีการแสดงออกที่ไม่ถูกต้องนัก จึงทำให้บุคคลบางกลุ่มออกมาคัดค้านต่อต้านจุดยืนของกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งในที่สุดแล้วจะเห็นได้ว่าต้นเหตุของความขัดแย้งในสังคมที่เกิดขึ้นมาจากความไม่เป็นธรรมในการปกครองและอำนาจที่ไม่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริงนั่นเอง
          "ปัญหาวันนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ อย่าตื่นเต้นตกใจ กินให้ได้ นอนให้หลับ...เราต้องมองพันธมิตรฯให้เข้าใจว่าเขารู้สึกทนไม่ได้ต่อการเมืองที่มาจากการซื้อเสียง มันควรเป็นประชาธิปไตยที่มาจากตัวแทนที่มีความสมบูรณ์ ไม่ใช่ตัวแทนที่มาจากการซื้อเสียง แต่เขา(พันธมิตรฯ)อธิบายไม่ถูก มันก็เลยเกิดปัญหา...อันการใดที่ไม่ได้นำด้วยการเมืองที่ถูกต้องก็น่าเสียดาย" พล.อ.ชวลิต กล่าว   
          ส่วนการแก้ไขปัญหาพื้นฐานหลัก คือการสร้างการปกครองที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งที่มีความบริสุทธิ์ยุติธรรม หรืออาจเป็นแนวทางการเมืองใหม่แต่ไม่ใช่รูปแบบ 70:30 ดังที่เคยเป็นข้อเสนอของกลุ่มพันธมิตรฯ แต่อาจเป็น 50:50 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่เท่ากันระหว่างการเลือกตั้งกับการแต่งตั้งตัวแทนประชาชนที่เปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมกับประชาธิปไตยจากทุกภาคส่วน
          "มันเป็นข้อเสนอของผม แต่เวลาจะทำ ต้องให้พันธมิตรฯ และนักวิชาการออกมาคุยร่วมกัน คงใช้เวลา 5-6 เดือน เพื่อให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรม ได้คนดี ไม่ต้องเสียเวลาไปยุบสภา ก็เอารัฐบาลปัจจุบันนี้มาแก้ให้ได้ทั้งปัญหาเฉพาะหน้าและปัญหาพื้นฐาน" พล.อ.ชวลิต ระบุ พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเสียสละมาร่วมมือกันเจรจาหาทางออกเพื่อบ้านเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายสามารถสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นได้ไม่ยาก
          พล.อ.ชวลิต ยังกล่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในสิ้นปีนี้ โดยเดือนหน้าจะถือเป็นขั้นตอนเข้าสู่การเริ่มต้นยุติปฏิบัติการก่อเหตุเพื่อสร้างสันติภาพ และจะมีการประกาศสันติภาพสู่มาตุภูมิเพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก่อนวันที่ 5 ธ.ค.51
          "ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจา คนของผมอยู่ที่มาเลเซียแล้ว...ทราบมาว่ารัฐบาลเขาจะมาเป็นสักขีพยานให้ด้วยว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจะยุติจริงๆ ไม่มีเบื้ยว" พล.อ.ชวลิต ระบุ