การเมืองของประเทศญี่ปุ่นร้อนขึ้นอีกครั้ง เมื่อนายกรัฐมนตรียาสุโอะ ฟูกุดะ ได้ประกาศลงจากตำแหน่งเมื่อต้นเดือนก.ย. หลังจากที่ถูกกดดันอย่างหนักว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจแดนปลาดิบชะลอตัว และเสี่ยงที่จะเผชิญช่วงขาลง เนื่องจากภาคครัวเรือนและเอกชนปรับลดการใช้จ่าย ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น อีกทั้งยังถูกพรรคฝ่ายค้านขัดขวางโครงการต่างๆที่รัฐบาลนำเสนอจนทำให้ไม่สามารถผลักดันผลงานออกมาได้ คะแนนนิยมในหมู่ประชาชนจึงร่วงลงอย่างต่อเนื่อง
นักการเมืองดาวรุ่งหน้าใหม่และหน้าเก่าต่างดาหน้าลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคลิเบอรัล เดโมเครติค (แอลดีพี) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลญี่ปุ่นกันอย่างคึกคัก ตั้งแต่ดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง นายทาโร่ อาโสะ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ และเลขาธิการพรรคแอลดีพีวัย 67 ปีที่คาดว่าจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่ที่จัดขึ้นในวันนี้ (22 ก.ย.)
นักการเมืองดาวเด่นอีกคนที่ได้รับความสนใจไม่แพ้กัน คือ นางยูริโกะ โคอิเกะ อดีตรัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่น และอดีตผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ โคอิเกะ เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องตะวันออกกลาง สามารถพูดภาษาอังกฤษ และภาษาอาหรับได้อย่างคล่องแคล่ว เป็นผู้มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอดีตนายกรัฐมนตรีจุนอิชิโร โคอิซูมิ นอกจากนี้ ยังเป็นสมาชิกกลุ่มใหญ่ที่สุดในพรรคแอลดีพี ซึ่งนำโดยนายโนบูทากะ มาชิมูระ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น
หากเธอได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ ยูริโกะ จะเป็นหัวหน้าพรรครัฐบาลหญิงและนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่นเลยทีเดียว
สำหรับคู่แข่งคนอื่นๆ รวมถึง ไซโกะ โนดะ รัฐมนตรีกระทรวงกิจการผู้บริโภค คาโอรุ โยซาโน่ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและนโยบายคลัง และนายชิเงรุ อิชิบะ อดีตรัฐมนตรีกลาโหม
ตามธรรมเนียมนั้น บุคคลที่ได้รับการคัดเลือกเพื่อทำหน้าที่หัวหน้าพรรคคนใหม่ จะเป็นบุคคลที่จะขึ้นมาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศ และแน่นอนว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสมาชิกพรรคแอลดีพีจะสนับสนุนผู้นำคนใหม่ของพรรคขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน
รัฐสภามีกำหนดจะจัดการประชุมกันในวันที่ 24 ก.ย. เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่อย่างเป็นทางการ หลังจากนั้นจะมีการประกาศยุบสภาภายใน 1 สัปดาห์
โพลล์ชี้ “อาโสะ" มีคะแนนนำโด่งผู้สมัครคนอื่นๆ
ผลสำรวจของสำนักข่าวเกียวโดเมื่อวันที่ 13-14 กันยายนชี้ว่า นายทาโร่ อาโสะ ได้รับคะแนนนิยมกว่า 50.7% จากสมาชิกพรรค ส่วนผู้ที่ได้คะแนนนิยมเป็นอันดับ 2 คือ นางยูริโกะ โคอิเกะ ด้วยคะแนน 8.1% ตามมาด้วยนายโนบุเทรุ อิชิฮาระ อดีตหัวหน้าฝ่ายนโยบายของพรรคแอลดีพี ด้วยคะแนน 7.5%, นายคาโอรุ โยซาโนะ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและนโยบายคลัง ด้วยคะแนน 5.1% และนายชิเงรุ อิชิบะ อดีตรัฐมนตรีกลาโหม ด้วยคะแนน 3.5%
นายอาโสะยังมีคะแนนนำเป็นอันดับ 1 ใน 45 จังหวัดจากทั้งหมด 47 จังหวัดในญี่ปุ่น ส่วนนางโคอิเกะและนายอิชิบะได้คะแนนนิยมสูงสุดในโตเกียว
“อาโสะ" กับการไต่เต้าขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคแอลดีพี
นายอาโสะ ได้ขึ้นมาเป็นเลขาธิการพรรคแอลดีพีเมื่อเดือนส.ค. และถือเป็นความพยายามครั้งที่ 4 แล้วที่นายอาโสะพยายามขึ้นครองตำแหน่งหัวหน้าพรรค เขาเป็นนักการเมืองหัวอนุรักษ์ที่ตรงไปตรงมา และได้เรียกร้องให้ญี่ปุ่นมีบทบาทมากขึ้นในเวทีโลก
อาโสะ เป็นนักการเมืองที่มีเสน่ห์ผู้คลั่งไคล้ในการ์ตูน แต่ก็เป็นนักการเมืองที่มีประวัติชอบพูดจาผิดกาลเทศะอยู่บ่อยครั้งดังจะเห็นได้จากการออกแถลงการณ์ขอโทษตามมานับครั้งไม่ถ้วน ล่าสุด อาโสะก็ต้องออกแถลงการณ์เพื่อขอโทษประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในเมืองโอกาซากิและอันโจ เขตไอจิ หลังจากที่พลั้งปากพูดออกไปในระหว่างการหาเสียงเมื่อวันที่ 14 กันยายนว่า ฝนที่ถล่มลงมาอย่างหนักครั้งนี้โชคดีที่ส่งผลกระทบแค่ 2 เมืองเล็กๆเท่านั้น เมืองใหญ่ ๆไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
ด้วยคำพูดที่ไม่ระมัดระวังเช่นนี้ ส่งผลให้เขาได้รับเสียงคัดค้านจากประชาชนใน 2 เมืองดังกล่าวทันที อาโสะต้องรีบส่งจดหมายขอโทษกลับไปแทบไม่ทัน เนื้อความในจดหมายมีว่า ผมขอโทษที่พูดแสดงความเห็นในลักษณะดังกล่าวออกไป และขอให้คำมั่นว่าจะทำทุกอย่างเท่าที่จะสามารถทำได้เพื่อฟื้นฟูเมืองที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมครั้งนี้
ทั้งนี้ ไม่ว่าใครจะได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคและนายกฯแดนปลาดิบคนใหม่ เขาหรือเธอผู้นั้นก็มีภารกิจอีกมากมายรออยู่ ทั้งเรื่องหนี้สาธารณะ ที่เป็นหนึ่งในปัญหาที่สำคัญที่ญี่ปุ่นประสบอยู่ รวมถึงปัญหาราคาอาหารและน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
--อินโฟเควสท์ โดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--