พธม.เตรียมรื้อเวที-เต็นท์เชิงสะพานมัฆวานฯ 14-19 พ.ย.เปิดเส้นทางเสด็จฯ

          พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยว่า แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ เห็นพ้องกันว่า ระหว่างวันที่ 14-19 พ.ย.นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่มีการจัดงานพระราชพิธีพระราชเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทางกลุ่มพันธมิตรฯ เตรียมรื้อเวทีปราศรัยและเต็นท์ที่พักชั่วคราวบริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ เพื่อเปิดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินฯ โดยจะใช้รถขยายเสียงเคลื่อนที่แทน
          ส่วนที่มีข่าวรัฐบาลจะส่ง พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ มาเจรจากับแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ นั้น พล.ต.จำลอง กล่าวว่า จะเป็นใครก็ตามต้องเป็นผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจ ไม่ใช่พูดคุยกันแล้วเสียเวลาเปล่า โดยกลุ่มพันธมิตรฯ พร้อมที่จะเจรจาและไม่ได้ปิดช่องทาง เพียงแต่ขณะนี้ยังไม่สะดวกที่จะออกจากทำเนียบรัฐบาล เพราะออกไปตำรวจก็จับ และเชื่อว่ารัฐบาลจะต้องทำภารกิจที่เร่งด่วนก่อน คือ การจัดตั้งคณะรัฐมนตรี และการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม
          พล.ต.จำลอง ยังกล่าวถึงแนวคิดการเมืองใหม่ว่า ขอยืนยันว่าเป็นการเลือกตั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ โดยมีการเลือกตั้ง 2 แนวทาง คือ เลือกตั้งจากเขตหรือพื้นที่ และการเลือกตั้งจากกลุ่มอาชีพเพื่อให้เกิดความหลากหลาย เพราะไม่ต้องการให้นายทุนหรือคนที่มีเงินมากเข้ามาครอบงำฝ่ายนิติบัญญัติ และการเมืองใหม่ยังคงเป็นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขอย่างแท้จริง แต่ที่ผ่านมาการเมืองเป็นประชาธิปไตยเพียงชื่อ ไม่มีการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
          ด้านนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ อีกคนหนึ่ง กล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรฯ จะระดมความคิดเห็นเรื่องการเมืองใหม่อีกครั้งในวันที่ 27 ก.ย.นี้ เวลา 14.00 น. โดยเชิญผู้ที่มีความรู้ด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ประมาณ 40-50 คน มาร่วมพูดคุยกัน และเห็นว่าการเมืองใหม่ควรเปิดโอกาสให้มีการตรวจสอบถ่วงดุลจากภาคประชาชนด้วย เช่น รัฐบาลควรมีงบประมาณสนับสนุนให้กลุ่มอาชีพต่างๆ รวมตัวกัน เพราะถือว่าเป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน และเป็นการรวมพลังที่จะดำเนินการเรื่องใดเรื่องหนึ่ง รวมทั้งต้องให้ประชาชนใช้สิทธิกระบวนการทางศาลได้ง่ายขึ้น
          ขณะที่นายพิภพ ธงไชย แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า การเมืองใหม่ยังกำหนดรูปแบบให้สื่อมวลชนมีความเป็นอิสระ เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ข่าวสารได้มากขึ้น และคดีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตต่ออำนาจหน้าที่จะต้องไม่มีอายุความ แต่ขณะนี้ความคิดเรื่องการเมืองใหม่นี้ถือว่ายังไม่ตกผลึก และจะมีการพูดคุยในวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้เกิดความหลากหลายและรับฟังความคิดเห็นจากภาคสังคมและประชาชนให้มากขึ้น