นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.ระบบสรรหา ได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)เพื่อให้ตรวจสอบคุณสมบัติของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เนื่องจากพบว่ามีการเข้าไปถือหุ้นใน บมจ.ซีเอส ล็อกซอินโฟ (CSL) ซึ่งในการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ในสมัยที่เป็นนรองนายกรัฐมนตรี ได้ยื่นแสดงว่ามีเงินลงทุน ได้รับค่าตอบแทนกรรมการ และได้รับเงินปันผลจากบริษัทดังกล่าว
ทั้งนี้ CSL ถือเป็นบริษัทที่ทำสัญญากับ บมจ.กสท โทรคมนาคม เพื่อให้บริการรับส่งสัญญาณโทรทัศน์และสัญญาณบริการอินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียมเป็นเวลา 22 ปี
แต่รัฐธรรมนูญมาตรา 48 บัญญัติว่าผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะ เป็นเจ้าของกิจการหรือถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หรือโทรคมนาคมมิได้ ไม่ว่าในนามของตนเองหรือให้ผู้อื่นเป็นเจ้าของกิจการหรือถือหุ้นแทน หรือจะดำเนินการโดยวิธีการอื่นไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมที่สามารถบริหารกิจการดังกล่าวได้ในทำนองเดียวกับการเป็นเจ้าของกิจการหรือถือหุ้นในกิจการดังกล่าว
นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญ มาตรา 182 (7) ยังบัญญัติว่าความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว เมื่อกระทำการอันต้องห้าม ตามมาตรา 267 มาตรา 268 หรือมาตรา 269
ดังนั้น จึงถือว่านายสมชาย มีพฤติการณ์ที่เข้าข่ายกระทำการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 267 ประกอบมาตรา 265 และมาตรา 106 (6) อันเข้าลักษณะเป็นเหตุให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลง เพราะขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส.ตามมาตรา 171 วรรคสอง ประกอบกับขาดคุณสมบัติตามมาตรา 48
"ผมต้องขอให้ กกต.ช่วยตรวจสอบ เพราะคุณสมชาย มีหุ้นอยู่ใน CSL ซึ่งหุ้นดังกล่าว เป็นบริษัทที่ได้รับสัมปทานและเป็นคู่สัญญากับรัฐ อีกทั้งยังทำธุรกิจที่มีลักษณะเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ ซึ่งเข้ามาตรา 48 และมาตรา 265" นายเรืองไกร กล่าวกับ "อินโฟเควสท์"
นายเรืองไกร ระบุว่าไม่ห่วงว่าการยื่นเรื่องสอบคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีดังกล่าวจะถูกมองเป็นประเด็นทางการเมือง เพราะถือว่าเป็นหน้าที่หนึ่งของพลเมืองตามรัฐธรรมนูญในมาตรา 62 ที่ให้บุคคลมีสิทธิร้องขอให้มีการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตลอดจนหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่รัฐได้
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--